ใบรับรองการสอบเทียบ (Calibration Certificate) : ทำไมต้องทำทุกปี และทำกับใครถึงจะน่าเชื่อถือ?

ในอุตสาหกรรมอาหาร เครื่องตรวจจับโลหะ (Metal Detector) และระบบ X-Ray ถือเป็นส่วนสำคัญของกระบวนการควบคุมความปลอดภัยอาหาร (Food Safety) โดยเฉพาะในโรงงานที่ต้องผ่านมาตรฐานอย่าง HACCP, GMP, BRC หรือ FSSC22000 หนึ่งในข้อกำหนดสำคัญของมาตรฐานเหล่านี้คือ “การสอบเทียบประจำปี” (Annual Calibration) เพื่อให้มั่นใจว่าเครื่องตรวจยังทำงานได้แม่นยำและเชื่อถือได้ตลอดเวลา

หลายโรงงานอาจสงสัยว่า

• ทำไมต้องสอบเทียบทุกปี?
• Calibration Certificate สำคัญแค่ไหน?
• ควรให้ใครเป็นผู้ดำเนินการสอบเทียบจึงจะยอมรับในระดับสากล?
  
  

บทความนี้จะพาคุณไปทำความเข้าใจแบบง่าย ๆ และแนะนำโซลูชันที่เหมาะกับมาตรฐานโรงงาน

Calibration คืออะไร? ทำไมเครื่องตรวจจับโลหะถึงต้องสอบเทียบ

Calibration คือกระบวนการตรวจสอบความแม่นยำของเครื่องมือวัดหรือเครื่องตรวจสอบ โดยใช้ “อุปกรณ์มาตรฐานอ้างอิง” เพื่อดูว่าเครื่องยังทำงานถูกต้องตามสเปกหรือไม่ สำหรับ เครื่องตรวจจับโลหะ การสอบเทียบช่วยให้มั่นใจว่า

• ความไวในการตรวจ (Sensitivity) ยังได้ตามมาตรฐาน
• ตรวจจับโลหะทุกชนิดได้ครบ ทั้ง Fe, Non-Fe, Stainless
• ไม่มีค่าคลาดเคลื่อนจากการใช้งานหนัก
• ผลการตรวจยังสอดคล้องกับข้อกำหนดของลูกค้าต่างประเทศ
  
  

หากไม่สอบเทียบเป็นประจำ เครื่องอาจมีความคลาดเคลื่อนโดยไม่รู้ตัว เช่น

• ตรวจจับโลหะไม่เจอ
• เกิดสัญญาณหลอกลวง (False Reject)
• เครื่องลดความไวลงเพราะอุณหภูมิหรือความชื้น
• ผลที่ออกมาไม่เป็นไปตามมาตรฐานสากล
  
  

ทุกข้อเป็นความเสี่ยงสำคัญต่อการเกิด สิ่งแปลกปลอม (Foreign Object Contamination) และทำให้สินค้าไม่ผ่านการตรวจประเมิน Food Safety

ทำไมต้องสอบเทียบเครื่องตรวจจับโลหะทุกปี?

ตามมาตรฐานสากล เช่น BRC, HACCP, FSSC22000 ได้กำหนดให้เครื่องมือวัดและเครื่องตรวจสอบทุกชนิดต้อง สอบเทียบเป็นประจำอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง เหตุผลคือ

1) ลดความคลาดเคลื่อนจากการใช้งานจริง เครื่องทำงานตลอดปี และมีโอกาสเสื่อมสภาพจาก ความชื้น อุณหภูมิ การกระแทก เครื่องสั่น และการใช้งานในไลน์หนัก
2) รองรับการตรวจประเมินจาก Auditor โรงงานต้องแสดง Calibration Certificate ที่เป็นปัจจุบัน หากขาดหรือ expired = ไม่ผ่านการตรวจประเมินทันที
3) เพิ่มความเชื่อมั่นของลูกค้าต่างประเทศ ผู้ซื้อจากญี่ปุ่น EU และสหรัฐฯ จะขอเอกสาร “ล่าสุด” เท่านั้น
4) ลดความเสี่ยงการ Recall เครื่องที่ไม่สอบเทียบอาจตรวจไม่เจอสแตนเลสหรือโลหะขนาดเล็ก ทำให้เกิดปัญหาใหญ่ตามมา


Calibration Certificate ต้องมีข้อมูลอะไรบ้าง?

ใบรับรองการสอบเทียบต้องประกอบด้วยข้อมูลดังนี้

• รายละเอียดเครื่อง (รุ่น, Serial No.)
• วันที่สอบเทียบ
• ชุดทดสอบมาตรฐานที่ใช้ (Test Piece Fe, Non-Fe, Sus)
• ค่า Sensitivity ก่อน–หลังสอบเทียบ
• ความแม่นยำหลังปรับตั้ง
• ชื่อผู้สอบเทียบและหน่วยงานออกใบรับรอง
• วันหมดอายุ (Next Calibration Due Date)
  
  

โรงงานต้องเก็บเอกสารนี้ไว้เพื่อใช้ในการ Audit หรือยืนยันคุณภาพสินค้าเวลาส่งออก

ทำกับใครถึงจะน่าเชื่อถือ?

โรงงานควรเลือกผู้สอบเทียบที่ ได้รับการยอมรับระดับอุตสาหกรรม และมีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านเครื่องตรวจสอบ เช่น Metal Detector และ X-Ray

• เชี่ยวชาญด้านอุปกรณ์ตรวจสอบสิ่งแปลกปลอมโดยตรง
• ใช้มาตรฐาน Test Piece อ้างอิงระดับสากล
• สามารถออกใบรับรอง Calibration Certificate แบบเป็นทางการ
• มีบริการสอบเทียบหน้างาน (On-site Calibration)
• มีประวัติการทำงานกับโรงงานอาหารชั้นนำ
• สามารถให้คำแนะนำและตรวจเช็คระบบ CCP ได้
  
  

การ สอบเทียบเครื่องตรวจจับโลหะ ไม่ใช่แค่การ “ปฏิบัติตามข้อบังคับ” แต่คือการยืนยันความแม่นยำของระบบที่ป้องกันปัญหาใหญ่ที่สุดของโรงงาน อย่างการปนเปื้อนโลหะในอาหาร เพื่อให้โรงงานมั่นใจว่าเครื่องตรวจทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพและพร้อมสำหรับมาตรฐานส่งออก ดังนั้นบริการสอบเทียบจาก Siam Paragon Solutions คือทางเลือกที่เชื่อมั่นได้ทั้งด้านความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ และการบริการหลังการขาย

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม

โทร. : +66(0)2-394-9932

มือถือ : +66(0)99-827-0078

Email : marketing@siamparagons.co.th

Website : Siam Paragon Solutions Co.,Ltd.

Website Profile: บริษัท สยามพารากอน โซลูชั่นส์ จำกัด

Facebook : Siam Paragon Solutions - ศูนย์รวมเครื่องจักรอุตสาหกรรมอาหาร