บล็อก

เรื่อง : สายเกินไป

ความนิยม 2เข้าชม/อ่าน 721 ครั้ง2011-9-29 15:19

แสงไฟติดๆดับๆจากเสาไฟฟ้าข้างทาง  
อาจทำให้คนที่เดินผ่านไปมาเห็นสมุดเล่มหนึ่งซึ่งตกอยู่ระหว่างกอหญ้า  
ที่เกิดจากที่ดินรกร้างข้างฟุตบาท แต่ไม่เคยมีใครสักคนคิดจะหยิบมันขึ้นมา  
ปล่อยให้สมุดที่เคยสีสันสดใสเล่มหนึ่งนอนอยู่กับกอหญ้า  
ผ่านลมและฝนมานานพร้อมกับรอยหมึกคำสัญญาที่นับวันยิ่งเลือนราง  
เพราะน้ำฝน...  
แต่ฝนไม่สามารถลบเลือนคำสัญญาจากจิตใจคนๆหนึ่งได้  
ชีวิตของเด็กมัธยมปลายทุกคนคงไม่สามารถหลีกหนีไปจากเรื่อง  
เพื่อน ความฝัน ความรัก เอ็นทรานซ์ ไปได้  

ทั้งหมดนี้คือที่มาของเรื่องราวของผมที่เริ่มต้นที่ห้องเรียนศิลปะ...  
ผม บอม กบ ซึ่งเป็นกลุ่มเดียวกันมาตั้งแต่ ม.ต้นได้มาอยู่ห้องเดียวกัน  
ในชั้นม.4 คงเป็นเหตุการณ์นั้นที่ทำให้พวกเราได้รู้จักกับนุ่น  
""นี่เธอ...เธอ..ยืมของเราก็ได้นะ"" บอมพูดพร้อมกับยื่นดินสอ 2b ให้ 1 แท่ง  
เธอก็รับไปพร้อมด้วยรอยยิ้มและเหล็กดัดฟันกลับมา  
รอยยิ้มที่เราได้เห็นทำให้พวกผมนึกไปถึงรอยยิ้มของน้องสาวตัวเล็กๆน่ารักคนหนึ่ง  
หลังจากหมดชั่งโมงศิลปะ พวกผมอาสาพาเธอไปกินข้าวที่โรงอาหาร  
และตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาเธอก็เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มพวกผม  
พร้อมกับความแปลกใจของหลายๆคนที่เห็นเด็กผู้หฌิงหน้าตาน่ารักคนหนึ่ง  
นั่งอยู่ในกลุ่มของเด็กผู้ชายที่กำลังคุยกันเสียงดังด้วยคำสบถต่างๆ  
ซึ่งเป็นคำธรรมดาในความคิดของเด็กผู้ชาย ..  
จากวันเป็นเดือน......จากเดือนเป็นปี....  
เมื่อเพื่อนคบกันมานานก็ย่อมรู้ใจกัน...  
และเริ่มรับรู้บางอย่างในวันที่นุ่นตัดผมสั้นมาใหม่  
""เฮ้ยนี่แกอะไรเข้าฝันวะ"" ผมพูด  
""อี๋...ทรงเก่าดีกว่าแยะเลย"" กบพูดพร้อมกับเสียงหัวเราะจากทุกคน  
""แต่เราว่าน่ารักดีนะ"" บอมพูด  
คำๆนี้ของบอมทำให้หน้าขาวๆของนุ่นแดงขึ้นมา  
ตั้งแต่เราเริ่มสังเกตุจากวันนั้นเราก็รู้ว่าคำพูดของบอมมีอิทธิพลกับนุ่นมาก  
และรู้ว่านุ่นต้องแอบปลื้มบอมไม่มากก็น้อย  
แต่ไม่เคยมีคำว่ารักคำใดๆเกิดขึ้นในกลุ่มเพื่อน  
ณ.โต๊ะประจำกลุ่มของเรา ""ขนมมาแล้วจ๊ะ""  
เสียงใสๆของนุ่นที่มาพร้อมกับขนมหลายถุงที่ถือเดินคู่มากับบอม  
(การซื้อขนมเลี้ยงของนุ่นมักเป็นกิจวัตรประจำ  
พวกเราเคยปฎิเสธเพราะพวกผมยังไม่รู้ว่านั่นมาจากเงินเล็กน้อยของคุณหนูนุ่นนั่นเอง)  
ขณะที่กินขนมอยู่นั้นนุ่นถามถึงอาชีพในอนาคตของทุกคน  
ผม กับ กบ ยังไม่ได้คิดอะไรถ้า เอ็น ติดอะไรก็เรียนไป  
ความฝันของบอม คือ เข้าเรียนเศรษฐศาสตร์ที่ธรรมศาสตร์  
และเป็นนักวิเคราะห์การเงินเหมือนพ่อของเขา  
ความฝันของนุ่นที่ต้องการเป็นนักสังคมสงเคราะห์ช่วยเหลือเด็กไม่ทำให้พวกผมแปลกใจเลย  
เพราะการชอบช่วยเหลือผู้อื่นและมองโลกในแง่ดีที่เป็นนิสัยของเธอ  
สิ่งที่เรารู้กันเลยก็คือนุ่นต้องอยากเรียนสังคมสงเคราะห์ที่ธรรมศาสตร์แน่นอน  
เมื่อนุ่นพุดจบบอมก็หยิบสมุดจดศัพท์ภาษาอังกฤษของนุ่นที่วางอยู่มา  
เปิดไปหน้าสุดท้ายของสมุดแล้วเขียนว่า...  
เราสองคนจะต้องเป็นลูกแม่โดมให้ได้นะ.....ลงชื่อ....บอม ...  
สิ่งที่เราเห็นต่อมาคือรอยยิ้มของนุ่นพร้อมกับหน้าแดงนาน 2-3นาที.  
ยิ้มน่ารักมากกว่าสิ่งใดๆ............  
วันแรกของม.6ไม่มีอะไรมากนอกจากการฉลองที่นุ่น  
ได้อนุญาตให้ไป-กลับโรงเรียนเองเหมือนนักเรียนทั่วไป  
ซึ่งเป็นสิ่งที่นุ่นต้องการมาตลอด 4-5 ปีที่แม่คอยรับคอยส่ง..  
วันนี้ผมได้เห็นอาการดีใจของคนที่ได้รับสิ่งที่ผมเรียกมันว่า  
.....""อิสรภาพ"".........  
ชีวิตของนักเรียนม.6 หลายๆคนคงไม่พ้นการเรียนพิเศษต่อตั้งแต่ 5 โมง-2ทุ่ม  
แต่การที่ได้เรียนกับเพื่อนรักของผมทำให้ผมไม่เคยคิดเหนื่อยหรือท้อแท้เลย โต๊ะ 4  
ตัวหลังสุดเป็นที่รู้กันว่าเป็นโต๊ะของกลุ่มผม  
ขณะที่พวกเรากำลังนั่งคุยรออาจารย์อยู่นั้น  
บอมได้ชี้ไปที่นักเรียนหญิงใส่ชุด uniform แขนยาว หน้าตาสวยมากคนหนึ่ง  
พร้อมพูดว่า ""นี่ดูผู้หญิงคนนั้นสิเราชอบเขามากเลยนะ""  
ตั้งแต่วันนั้นผู้หญิงคนนั้นก็เป็นประเด็นสนทนาในกลุ่มอีกบ่อย  
แต่ทุกครั้งที่พูดถึงผู้หญิงคนนั้นผมรู้สึกว่านุ่นมีความรู้สึกแปลกๆที่ไม่แสดงออกมา  
จนผมคิดว่าต้องให้บอมถามให้ได้ว่าเป็นอะไรเพราะเขาสองคนสนิทกันมากที่สุด  
แต่บอมก็ไม่เคยสงสัยและถาม  
สักพักผมเลิกสนใจกับสิ่งนี้เพราะผมก็แค่ผู้ชายที่ไม่เคยคิดจะเข้าใจความรู้สึก  
นึกคิดของผู้หญิง  
เวลาที่พวกผมได้ผักผ่อนมากที่สุดจากการเรียนคงเป็นตอนหลังเลิกเรียนพิเศษ  
ซึ่งพวกผมจะเวียนไปฝากท้องตามร้านต่างๆ  
หลังจากนั้นก็มักไปเล่นเกมส์ เกมส์ประจำตัวของผมคือ daytona  
ของกบชอบเล่น dj โดยเฉพาะตอนมีสาวๆมองเยอะจะออกลีลาเป็นพิเศษ  
เครื่องตู้เกมส์ เตอติส ที่อยู่หลังร้านเหมือนเป็นเกมส์ที่สร้างมาเพื่อบอมและนุ่น  
ผมได้เห็นทั้งคู่เล่นด้วยกัน เล่นแข่งกันได้  
ดูเวลาที่เขาแกล้งกัน นุ่นมักปัดมือของบอมให้ออกจากจอยเกมส์เป็นประจำ  
เวลาที่ทั้งคู่เล่นแข่งเพราะบอมเป็นคนที่เล่นเก่งมาก  
แต่บอมก็ชอบและไม่เคยเห็นบอมโกรธนุ่นสักครั้งเวลาที่นุ่นคอยแหย่คอยกวน  
ผมคิดว่าทั้งคู่คงมีความสุขมากที่ได้อยู่ใกล้ๆกัน  
พลางคิดไปถึงคำพูดใน หนัง รักออกแบบไม่ได้ ที่ว่า  
""เป็นเพื่อนกันดีที่สุดจะได้คบกันนานๆ""  
แต่สำหรับสำหรับคู่นี้ผมนึกภาพไปถึงตอนที่ทั้งคู่เป็นคนชราคู่หนึ่ง  
ที่ใช้เวลาบั้นปลายชีวิตนั่งนับดาวบนท้องฟ้าด้วยกันและต่อเติมความสุขซึ่งกันและกัน  
ทุกครั้งที่มองคู่นี้อยู่ด้วยกันผมคิดว่าเค้ากำลังร่วมสร้างและต่อเติมความรักซึ่งกันและกันอยู่  
แม้เพื่อนสนิทอย่างผมจะแซวว่าทั้งคู่ไม่เหมือนแค่เพื่อนสนิทเท่านั้นนะคู่นี้  
แต่ว่าสิ่งที่ผมเห็นคือรอยยิ้มของทั้งคู่พร้อมอาการเขิน  
และสายตาของนุ่นที่หันไปมองบอม แล้วทั้งคู่ก็ช่วยกันปฎิเสธ  
แล้วนุ่นก็มักจะพูดว่า""พวกนี้เนี่ยไม่พูดด้วยแล้ว""  
พรอ้มกับหันหลังเดินไปซื้อขนมและบอมก็เดินตามติดๆกันไป  
วันศุกร์ใกล้ปิดคอร์สเรียนพิเศษภาษาอังกฤษเมื่อพวกเรามาถึงที่เรียนพิเศษปรากฏว่า  
ไฟดับโรงเรียนจึงนัดชดเชยให้วันอื่น  
วันนี้จึงไม่ค่อยได้เรียนเพราะวันศุกร์ที่โรงเรียนมีเรียนแค่2วิชา  
พวกเราจึงถือสมุดหนังสือไปเรียนเพียงไม่กี่เล่มหลังจากนั้นพวกเราจึงไปเดินเล่นที่ห้างสรรพสินค้า  
วันนี้นุ่นผิดปกติดูซึมๆตั้งแต่เช้า พวกเรารบเร้าเท่าไหร่ก็ไม่บอก  
ขณะที่เดินเล่นกันอยู่บอมได้จับหน้าผากของนุ่น บอมตกใจมากเพราะนุ่นตัวร้อนจัด  
บอมจึงพูดว่า""นุ่นเธอตัวร้อนมากนะกินยาอะไรหรือยัง?""  
""ปวดหัวนิดหน่อยไม่เป็นไรหรอก"" นุ่นตอบ  
พวกผมจึงรบเร้าให้นุ่นรีบกลับไปผักผ่อนที่บ้านและตัดสินใจให้บอมเดินไปส่งนุ่นขึ้นtaxi  
โดยผมกับกบจะไปรอที่food center  
ก่อนที่ผมจะแยกย้ายกับนุ่น บอมแซวนุ่นว่า  
""นี่ไม่สบายขนาดนี้ยังไม่ยอมนอนพักอยู่บ้านอีก""  
""ก็ฉันเป็นเด็กขยันนะซิจ๊ะ"" นุ่นตอบพร้อมกับยิ้มมา  
""ดูนุ่นสิหน้าเหมือนคนจะตายอยู่แล้วยังยิ้มออกอีก""  
บอมพูดไปโดยไม่รู้ว่ารอยยิ้มนี้จะเป็นรอยยิ้มที่พวกผมจะไม่มีวันลืม  
สำหรับผมเหตุผลเดียวที่นุ่นมาเรียนวันนี้คือการที่ได้มานั่งเรียนพิเศษข้างๆบอม  
หลังจากผมแยกย้ายกับนุ่นบอมก็เดินไปส่งนุ่นขึ้นtaxi กลับบ้าน  
.......เอี้ยด.....ปัง......อัก......  
รถบรรทุกคันหนึ่งวิ่งคร่อมเลนมาชนกับtaxiคันหนึ่งที่วิ่งมาด้วยความเร็วค่อนข้างสูง  
ร่างของผู้หฌิงคนหนึ่งที่ไม่ได้คาดเข็มขัดนิรภัยกระเด็นกระแทกกระจกรถออกมาตกลง  
บนพื้นและไถลไปข้างหน้าอีก7-10 เมตร  
สมุด หนังสือ ดินสอกระจัดกระจายอยู่บนถนนบ้างบนทางเท้าบ้าง  
กล่องดินสอ มือถือแตกเป็น 2 ส่วน  
พลเมืองดีผู้หนึ่งอุ้มร่างที่เต็มไปด้วยเลือดและบาดแผลไปส่งโรงพยาบาล  
เช้าวันเสาร์ ณ ที่เรียนพิเศษวิชาคณิตพวกผมรู้สึกแปลกใจที่นุ่นมาเรียนสาย  
เพราะปกตินุ่นจะมาเป็นคนแรก  
แต่พวกผมก็คิดว่านุ่นคงยังไม่ค่อยสบายและผักผ่อนอยู่ที่บ้าน  
แต่ขณะที่เริ่มเรียนไปได้15นาที เพจของบอมก็ดังขึ้น  
พรอ้มกับข้อความจากแม่ของนุ่นที่ว่า ตอนนี้นุ่นอยู่ห้อง ICU  
โรงพยาบาลเปาโล ต้องการพบบอมด่วน  
เมื่อพวกผมอ่านข้อความนี้จบก็เดินออกจากห้องทันทีมารู้ตัวอีกทีก็คือเห็นรอยช้ำ  
ของขอบตาที่เกิดจากการร้องไห้ของแม่ของนุ่น  
พร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมาอย่างไม่ยอมหยุดที่หน้าห้องICU  
เมื่อเราเดินเข้าไปในห้องหมอบอกพวกผมว่านุ่นเสียเมื่อ 5 นาที ที่แล้ว  
พวกผมเหมือนตกอยู่ในภวังค์  
น้ำตาเริ่มไหลออกมาจากทุกคนที่เรียกตัวเองว่าลูกผู้ชาย  
ทุกคนยืนร้องไห้อยู่ข้างๆเตียงของนุ่น  
ไม่มีสักคนเปิดผ้าที่คลุมร่างที่ไร้วิญญาณของนุ่นดูเพราะทุกคนรู้ดีว่านุ่นไม่ต้องการ  
ให้ใครเห็นนุ่นในสภาพอย่างนี้แน่  
เหตุการณ์นี้แม้ว่าผมจะเสียใจมากแต่ยังไงก็คงไม่เท่าบอม  
เพราะทุกคนรู้ดีว่าบอมเสียใจมากที่สุด  
แต่บอมก็เก่งมากเพราะหลังจากนั้นอาทิตย์หนึ่งก็ไม่เห็นบอมร้องไห้อีก  
ขณะนั่งเรียนวิชาคณิตในคาบที่ 7 หลังจากงานฌาปณกิจนุ่น 2 วัน  
แม่ของนุ่นได้ขออนุญาตอาจารย์เดินเข้ามาหาบอมในห้องและพูดว่า  
"" ในห้องICU ก่อนที่นุ่นจะสิ้นใจนุ่นบอกกับแม่ให้นำ diary  
เล่มนี้มาให้บอมให้ได้"" แล้วแม่ของนุ่นก็ยื่นถุงกระดาษที่ข้างในมี diary เล่มหนึ่งมาให้  
หลังจากหมดคาบผมและบอมได้หยิบ diary ขึ้นมา  
มันเป็น diary เล่มสีชมพู ที่นุ่นใช้เขียนความคิดและความฝันต่างๆของนุ่น  
ชื่อของบอมมีอยู่ใน diary ของนุ่นทุกหน้าตั้งแต่วันที่เธอได้พบกับบอมที่ห้องศิลปะ  
เมื่อพลิกกลับมาช่วงกลางเล่มน้ำตาของบอมก็หยดลงบนรูปๆหนึ่งที่นุ่นวาดขึ้นใน diary  
เป็นรูปนุ่นกับบอมที่ยืนยิ้มโดยนุ่นยืนกอดแขนบอมอยู่และทั้งคู่ใส่ชุดนักศึกษา  
มหาลัยธรรมศาสตร์ ""ทำไมนุ่นไม่รู้ล่ะว่าเรารักเค้ามากขนาดไหน""  
บอมพูดเมื่ออ่าน diary และได้รู้ว่านุ่นรอคอยคำว่ารักจากบอมอยู่  
และเมื่อช่วงหนึ่งใน diary จึงได้รู้ว่า  
นุ่นเข้าใจผิดว่าบอมไปรักผู้หญิงคนหนึ่งที่บอมชี้ให้พวกเราดู ณ  
ที่เรียนพิเศษ สิ่งต่อมาที่ผมได้รู้ก็คือ นุ่นไม่เคยเข้าใจสิ่งที่บอมพูดเสมอในกลุ่ม  
ว่า รัก กับ ชอบ นั้นแตกต่างกันมาก  
ผมได้แต่นึกเสียดายที่บอมไม่ยอมพูดความรู้สึกของตัวเองให้นุ่นได้รับรู้  
ได้แต่ปล่อยให้นุ่นคิดไปต่างๆนาๆ  
เพราะถ้าบอมได้พูดและอธิบายความรู้สึกของตัวเองนุ่นก็คงจากไปอย่างมีความสุขกว่านี้  
ก่อนการเร่งสอบปลายภาคไม่กี่วัน  
เพื่อให้เวลานักเรียนอ่านหนังสือเตรียมเอ็นครั้งที่2  
ขณะที่ทุกคนกำลังนั่งคุยกัน กบได้ตะโกนถามเพื่อนๆทุกคนว่า  
ถ้าตอนนี้มีพรวิเศษขออะไรก็ได้สิ่งหนึ่งจะขออะไร  
คำตอบที่ได้ก็แตกต่างกันไป บ้างขอให้ หล่อ รวย สวย เอ็นติด  
ทุกคนตอบต่างๆกันไป  
เมื่อกบหันมามองหน้าบอมทุกคนก็หันมาเหมือนจะรอคำตอบจากบอม  
""เราขอแค่ได้พบนุ่นอีกครั้งแล้วเราจะบอกเค้าว่าเรารักเค้ามากขนาดไหน""  
บอมตอบมาพร้อมๆกับน้ำตาที่ค่อยๆคลอออกมา  
หลังที่บอมพูดจบเพื่อนในห้องหลายคนหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาซับน้ำตาของตน  
วันนั้นผมจึงได้รู้ว่า นุ่นยังคงอยู่ในใจของบอมอยู่ไม่เปลี่ยนแปลง  
วันที่ผมได้รู้อานุภาพของความรักก็คือวันประกาศผลเอ็น  
เรานัดเปิดซองจดหมายผลสอบพร้อมกันที่บ้านของกบ  
กบติด ม.เชียงใหม่ ผม ติด ที่ประสานมิตร  
แต่สิ่งที่ทำให้ผมตกใจมากคือ คนที่ได้คะแนน60  
กว่าเกือบทุกวิชาไม่ติดเศรษฐศาสตร์ได้อย่างไร  
แต่คำอธิบายของบอมก็ทำให้ผมรู้ว่าบอมทิ้งความฝันที่จะเป็นนักการเงินของเขา  
มาเรียนสังคมสงเคราะห์เพื่อเดินตามความฝันของนุ่น  
ทำให้ผมได้เห็นความรักที่เปลี่ยนแปลงชีวิตของคนๆหนึ่ง  
ความฝันของบอมเปลี่ยนเป็นการได้สร้างสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า  
และได้นำชื่อณัฐธิดาที่เป็นชื่อจริงของนุ่นมาตั้งเป็นชื่อสถานเลี้ยงเด็ก  
เพื่อเป็นอนุสรณ์ของผู้หญิงจิตใจดีงามคนหนึ่งที่เค้าได้เคยพบเจอในชีวิต  
คนที่ไม่รู้จักบอมดีจะมองเค้าเป็นผู้ชายธรรมดาคนหนึ่งที่ปิดตัวเองไม่ยอมเปิดใจให้ใคร  
แต่สำหรับผมรู้ดีว่าใครอยู่ในหัวใจของเขาตลอดเวลา ........  
ในเวลาโพล้เพล้สายลมลมพัดเมฆมาก่อตัวรวมกันจนกลั่นป็นเม็ดฝนลงมาสู่ดินทุกหนแห่ง  
ลมพัดเข้ามาในห้องผมอย่างแรง ทำให้กรอบรูปที่มีรูปถ่ายของพวกเราอยู่  
คว่ำด้านหน้าลง  
ผมหยิบมันพลิกขึ้นวางที่เดิม  
และมองไปที่รูปนั้น อีกครั้งหนึ่งที่มันทำให้ผมนึกถึง ..เธอ....  
เธอ... ผู้ที่ทำให้พวกผมรู้ได้รู้ว่าคนดัดฟันกินอาหารบางอย่างไม่ได้  
เธอ... ผู้ที่ทำให้พวกผมได้หัดฟังเพลงค่าย DOJO CITY  
เธอ... ผู้ที่แนะนำให้พวกผมมองโลกในแง่ดี และออกไปต่อสู้กับปัญหา  
เธอ... ผู้ที่นำความงดงามของจิตใจเธอมาให้พวกผมได้สัมผัส  
เธอ... ผู้ที่มาเปลี่ยนแปลงชีวิตของพวกผม  
เธอ... ผู้ที่จากไปอย่างไม่มีวันกลับมา  
ฝนยังคงกระหน่ำลงบนถนนสายหนึ่ง  
เม็ดฝนกระหน่ำลงมาปานจะฉีกสมุดที่อยู่ในดงหญ้าข้างๆ  
ทางเท้าเล่มหนึ่งยุ่ยขาดเป็นส่วน  
แม้จะผ่านลมฝนลมหนาวมานานเท่าใดแต่สมุดเล่มนี้ก็ยังคงอยู่ที่เดิม  
พร้อมกับรอยหมึกคำสัญญาที่ไม่อาจเป็นจริงได้เพราะคนๆ  
หนึ่งได้จากไปแล้ว .....  
""รัก"" บางคนคิดว่าเป็นความรู้สึกที่ไม่จำเป็นต้องพูด  
แต่ผมอยากให้คุณรู้ว่ามีบางคนใช้ชีวิตเพื่อเสาะหาและรอคอยคำๆนี้จากปากคุณอยู่  
เมื่อคุณมั่นใจแล้วคุณควรที่จะพูดออกไป  
ดีกว่าที่จะต้องมานั่งเสียดายและเสียใจเพราะว่าวันนี้เป็นวันที่  
...สาย...เกิน...ไป....


เขินอ่ะ

อะไรก็ไม่รู้

เห็นด้วยๆ
2

ซึ้งจังเลย

ขำฮาตรึม

มีผู้แสดงความรู้สึก (2 คน)

ความคิดเห็น (0 ความคิดเห็น)

facelist doodle วาดภาพ

คุณต้องเข้าสู่ระบบก่อนจึงจะสามารถแสดงความคิดเห็นได้ เข้าสู่ระบบ | สมัครสมาชิก

wolf ID 1776

  • อันดับ
    Level.11
  • เครดิต
    11640
  • เครดิต
    11640
  • เงินยูโร
    50242728
  • จิตพิสัย
    45493
  • ทอง
    5857
TOP