ความนิยม 3
ขณะที่คุณผู้หญิงหลายคนกำลัง สนุกสนานกับการเล่นน้ำสงกรานต์อยู่ดีๆ แต่โทรศัพท์มือถือสุดรักดันเปียกน้ำซะได้ ทั้งที่พยายามดูแลอย่างดีแล้วแท้ๆ แต่เรื่องแบบนี้ก็เกิดขึ้นได้ สำหรับใครที่พลาดไปแล้วเรามาดูวิธีแก้ไขกันดีกว่า
ถ้าโทรศัพท์มือถือของคุณเปียกน้ำหรือตกน้ำในช่วงสงกรานต์ ให้ปฏิบัติดังนี้
1. หลังจากเอามือขึ้นจากน้ำแล้ว อย่า!กด เปิดเครื่องเด็ดขาดค่ะ เพราะถ้าเปิดอาจจะเกิดการลัดวงจรขขึ้นได้ ทางที่ดีคุณควรถอดแบตเตอรี่ออกให้เร็วที่สุด
2. หาผ้าเช็ด เช็ดมือถือด้านนอกโดยรอบให้แห้ง แล้วทำการเช็ดเช็ดแบตด้วย จากนั้นให้สำรวจว่าน้ำเข้าบริเวณที่ส่วนใดบ้าง
3. หาถุงพลาสติกใส่เครื่องคุณไว้ รัดยางปิดถุงไว้ ไม่ต้องสลัดเครื่อง เพื่อจะช่วยให้น้ำออกนะคะ สิ่งที่ควรทำคือทำให้เครื่องแห้ง โดยนำเครื่องกลับบ้าน
4. ห้ามคิดที่จะใช้ไดรเป่าผมเป่าให้แห้งโดยเด็ดขาดค่ะ จำไว้ให้ขึ้นใจเลยว่า พวกอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทั้งหลายไม่ถูกกับความร้อนเป็นสุด
5. ถึงบ้านแล้ว หาถุงผ้าหรือผ้าบาง ๆ ห่อตัวเครื่องโทรศัพท์มือถือไว้ โดยให้เปิดฝาหลังที่ครอบแบตเตอรี่ออกด้วย หลังจากห่อด้วยผ้าแล้ว ให้เอาเชีือกหรือยางรัด แล้วนำไปเก็บไว้ใต้ถังข้าวสารครับ ประมาณ 24 ชม. จากนั้นรอดูผล เนื่องจากข้าวสารจะดูดความชื้นที่อยู่ในตัวเครื่องมือถือออกมาให้หมดสัก สำหรับคุณผู้หญิงที่ไม่มั่นใจว่าความชื้นออกมาหมดรึยัง ทิ้งไว้ในถังข้าวสารสัก 2 วันก็ได้ค่ะ อย่าใจร้อน อย่าเพิ่งใจร้อนเช็คอาการโดยเปิดเครื่องใช้งานเพราะอาจเกิดความไม่ปลอดภัย ต่อตัวคุณผู้หญิงเองได้
6. หลังจากที่นำไปฝังไว้ในถังข้าวสารราว 1-2 วันแล้ว ก็สามารถนำตัวเครื่องออกมาได้ จากนั้นก็ให้ลอง นำแบตที่เช็ดและพึ่งไว้จนแห้งมาใส่ แล้วเปิดเครื่องใช้งานดู
ร้อยละ 90 เปอร์เซ็นต์ ที่เจอปัญหามือถือเปียกน้ำ หรือตกน้ำจะสามารถใช้งานได้ตามปกติค่ะ แต่ควรปฏิบัติครบตามขั้นตอนที่วีซ่านำมาแนะนำเท่านั้นนะคะ และสำหรับคุณผู้หญิงที่ประสบปัญหามือถือตกชักโครกก็สามารถนำวิธีที่แนะนำนี้ไปปฏิบัติได้เช่นกันค่ะ