10 วิธีป้องกันโรคร้าย จากเทคโนโลยี (Lisa)
ปฏิเสธ
ไม่ได้ว่า ยุคนี้เป็นยุคแห่งเทคโนโลยีจริง ๆ และสำหรับคอเทคโนโลยีทั้งหลาย
คุณอาจกำลังเสี่ยงโรคร้ายอีกหลายโรค เพื่อเป็นการป้องกัน เราจึงมี 10 วิธีป้องกันโรคร้ายมาบอกกล่าวกัน
1.แว่น
ตา หรือ คอนแทคเลนส์ทั่วไป อาจจะไม่เพียงพอต่อการป้องกันแสง
สำหรับคนที่ทำงานหน้าคอมพิวเตอร์เป็นระยะเวลานาน จึงควรเลือกแว่นตา
หรือคอนแทคเลนส์ที่เคลือบป้องกันแสงจากหน้าจอโดยเฉพาะดีกว่า
2.หลายคนรู้สึกสบายกว่าเวลาที่ดวงตาของเรามองลงต่ำ ถ้าจะให้ดีหน้าจอควรอยู่ต่ำกว่าระดับสายตา 15-20 องศา หรือประมาณ 4-5 นิ้ว และเว้นระยะห่างจากดวงตาของเรา 20-28 นิ้ว
3.เพื่อป้องกันไม่ให้ดวงตาเมื่อยล้า อย่าลืมพักสายตาเมื่อใช้คอมพิวเตอร์เป็นระยะเวลานาน ทุก ๆ สองชั่วโมง ควรพักสายตา 15 นาที และทุก ๆ ชั่วโมงให้ลองมองออกไปไกล ๆ 20 วินาที
4.ลดแรงลงหน่อย หลาย ๆ คนใช้แรงมากเกินกว่าที่จำเป็นในงานที่ต้องใช้มือ ถ้าคุณต้องนั่งพิมพ์เป็นระยะเวลานาน พิมพ์เบา ๆ ก็พอ
5.พักมือและข้อมือโดยการยืดและงอ อย่าสะบัด หรือหากเป็นไปได้ก็ควรหันไปทำงานอย่างอื่น ๆ แทนสักพัก
6.สำหรับ
คนอยู่ในออฟฟิศที่เปิดแอร์เย็น ความอบอุ่นของมือนั้นก็สำคัญมากเช่นกัน
ถ้ามือของคุณอยู่ในที่เย็น ก็ยิ่งเสี่ยงต่ออาการปวดหรือตึงมือ
ถ้าปรับอุณหภูมิไม่ได้ ก็ควรหาถุงมือแบบที่ไม่มีนิ้วใส่
เพื่อให้อุ้งมือและข้อมืออุ่นตลอดเวลา
7.ผศ.นพ.วิษณุ กัมทรทรัพย์ ภาควิชาเวชศาสตร์ฟื้นฟู คณะแพทยศาสตร์ ศิริราช-พยาบาล แนะนำภายในการประชุมวิชาการเรื่อง Office syndrome ว่า
ให้เราจัดโต๊ะทำงานให้เป็นระเบียบ ด้านขวาของโต๊ะปล่อยโล่ง
ไม่มีสิ่งของมากีดขวางและควรเลือกโต๊ะทำงานที่มีระดับพอดีกับข้อศอก
เพื่อให้สามารถกดคีย์บอร์ดได้ถนัด
ประกอบกับตัวแป้นคีย์บอร์ดควรมีที่รองรับข้อมูล
ไม่ให้เกิดการกระดกข้อมือซ้ำ ๆ ด้วย ส่วนเก้าอี้ควรเป็นแบบปรับขึ้นลงได้
และควรมีพนักพิงที่สามารถรองรับศีรษะได้
8.เปิด MP3 ดัง
ๆ ไม่ใช่เรื่องดีแน่นอน
ถ้าคุณไม่ได้ยินเสียงรอบตัวยามที่เสียบหูฟังแล้วล่ะก็
คุณควรจะลดระดับเสียงลง หากเพื่อนข้าง ๆ ยังได้ยินเสียงจากหูฟังของเรา
นั่นแปลว่า ยังดังเกินไปอยู่นะคะ
9.ป้องกัน
อาการปวดหลังด้วยการปรับเก้าอี้ให้มีความสูงพอเหมาะ
และใกล้กับคอมพิวเตอร์มากพอที่เราจะไม่ต้องก้มตัว
ในระหว่างนั่งให้วางเท้าอยู่กับพื้น เพื่อช่วยลดแรงกดด้านหลัง
10. บาง
ครั้งอาการปวดที่หลังส่วนบนหรือแม้แต่อาการปวดศีรษะ อาจเป็นเพราะว่า
หลังของเราเหนื่อยล้ากับการต้องรับน้ำหนักแขน
ตรงนี้ล่ะที่เท้าแขนสามารถช่วยได้ มันจะรับน้ำหนักของแขนเอาไว้
ทำให้คอและหัวไหล่ได้ผ่อนคลาย
ที่มาบทความ : http://health.kapook.com/view25344.html