บล็อก

สักวัน.. จะกลับไปหา นะ

ความนิยม 2เข้าชม/อ่าน 833 ครั้ง2012-2-29 16:04

อีกค่ำคืน ที่พาตัวเองระหกระเหินมาอยู่ต่างที่ต่างถิ่น
ตีสามสี่สิบนาที ฉันมาถึงที่นี่
นี่แหละที่ที่ฉันอยากจะมา ..

ทะเลค่ำคืน

มาทำไม …..ฉันไม่รู้….. รู้แต่อยากมา
มาหาใคร ... ฉันไม่รู้ ... ฉันไม่รู้จักใครที่นี่
มากับใคร….. ไม่มี ... มีเพียงฉัน
คุ้นชินกับความลำพังเสียแล้วกระมัง

ก่อนหน้า
อาการนอนไม่หลับกำเริบ
ทั้งที่วันทั้งวันเหนื่อยจนแทบหมดแรง
คนอ่อนเพลียอย่างที่สุด อยากพักผ่อน อยากนอนหลับ
แต่เจ้ากรรมกลับลืมตาโพลงอยู่ท่ามกลางความมืด
ข่มตาตัวเองให้หลับลงไม่ได้ … มันทรมานสิ้นดี

อาการปวดหัวที่เป็นมาหลายวัน
รุกคืบอย่างน่ากลัว
ดุจว่า สัตว์อะไรสักตัวกำลังกัดกินเนื้อสมองจนขาดวิ่น
เจ็บร้าวไปทั้งกะโหลกปานว่ามันแทบจะแตกเป็นเสี่ยง
ทานยาตามหมอสั่ง แต่ไม่เป็นผล
ร่างกายมันดื้อด้าน
ต่อต้านกระทั่งยาบรรเทาการเจ็บปวดของตัวเอง
ไม่ได้มีความต่างกัน ระหว่าง การได้รับยา หรือ ไม่ได้รับ
หัวยังคงปวดและเจ็บร้าวมากขึ้นเรื่อย ๆ
ปวดจนแทบจะเอาหัวทั้งหัวเข้าช่องแช่แข็ง
เผื่อว่าความเย็นเยือกนั่นจะบรรเทาความเจ็บร้าวนั้นได้บ้าง
แต่ก็เป็นแค่ความคิด ความอยากที่ฉันทำมันจริง ๆไม่ได้ …

สุดท้ายบอกตัวเอง
ให้ทำความคุ้นชินกับมันเสีย
มันคงเป็นทางเลือกเดียวที่เหลืออยู่แล้ว
นั่นสิ บางทีการทำตัวให้คุ้นเคยกับความเจ็บปวด
มันก็ทำให้เรารู้สึกเจ็บปวดน้อยลง
ลองดูกับมันดูสักตั้ง
ว่าที่สุดแล้วมันจะเจ็บปวดได้สักแค่ไหนกัน


คงคล้ายกับจิตใจคนเรา
ที่บางครั้งมันก็เรียนรู้ที่จะเข้มแข็งจากความเจ็บปวดที่มี
ปล่อยความเจ็บนั้นเกาะกินอยู่ในใจให้มันถึงที่สุด
มันไม่มีทางที่จะเจ็บปวดไปได้มากกว่านี้อีกแล้ว
มันเต็มอัตราเสียแล้ว …
ทีนี้ สิ่งที่ได้กลับมา
กลับกลายเป็นความคุ้นเคย และ ชาชิน กับความเจ็บปวดนั่น
แม้แท้จริงแล้วความเจ็บนั้นมิได้ทุเลาหรือสลายไป
แต่เรากลับรู้สึกว่ามันทำร้ายเราได้น้อยลง
และที่สุดก็ได้เรียนรู้ว่า ความเข้มแข็งในใจตนยังคงอยู่


ร่างกาย จิตใจ
ต่างรับรู้ได้ถึงความเจ็บปวดได้คล้ายกัน
แต่นั้นแหละจริง ๆ แล้วมันก็แค่คล้าย
ไม่มีอะไรหรือใครที่เหมือนกันอย่างสมบูรณ์
ร่างกายกับความรู้สึกก็เช่นกัน

…..

ฉันจะจัดการกลับความเจ็บปวดนี้เช่นไร
เวียนถามตัวเองอยู่เช่นนั้น

….

นิ่งเงียบ ไม่มีคำตอบให้กับตัวเอง

….

ลุกขึ้นมานั่งหายใจทิ้ง ตอกย้ำความเจ็บปวดให้ตัวเองเช่นนี้หรือ

….

ความบิ่นบ้าในตัวกระหน่ำสู่ความคิดอย่างไร้แรงต้าน

….

ฉันอยากไปทะเล ฉันคิดถึงทะเล ฉันจะไปทะเล

…..

ไม่มีการเหนี่ยวรั้งจากส่วนใดของสมอง
ข้อกำหนดกฎเกณฑ์ของเวลา ไร้ความหมายอย่างสิ้นเชิง

…..

ขับรถออกจากบ้านเมื่อค่อนดึก
ไม่หลงลืมที่จะทิ้งกระดาษโน๊ตเล็ก ๆ บอกเล่าถึงแหล่งที่จะไป
กับบางคนที่ห่วงแสนห่วงตอนนี้
เช้าพรุ่งนี้จะกลับมาพร้อมความสดใส เขียนไว้เช่นนั้น
ยิ้มรับกับความตั้งใจของตัวเอง
ลืมความเจ็บปวดไปชั่วครู่
ชีวิตคนเราก็แค่นี้ .. จะเอาอะไรกับมันนักหนาเล่า
ปลดปล่อยตัวเองจากกฎเกณฑ์เสียบ้าง
ชีวิตคนเราไม่ได้ยาวนานนักหรอก อยากทำอะไรให้รีบทำ
ตอนนี้ฉันอยากไปทะเล ฉันจะไป

…….

พาตัวเองมาถึงที่นี่
ยิ้มให้กับทะเลค่ำคืนตรงหน้า
สูดกลิ่นไอของทะเลจนเต็มปอด
มันช่างชื่นใจนัก
นี่แหละสิ่งที่ฉันฝันถึงเสมอ
เวลาร่างกายหรือจิตใจอ่อนแอ อ่อนล้า
จนเริ่มรู้สึกว่าฉันรับมันไม่ไหวอีกแล้ว

แม้ที่นี่จะไม่ใช่ทะเลในฝันของฉัน
แต่ความวังเวงของแผ่นน้ำกว้างข้างหน้านั้นก็คือทะเล
ทะเลค่ำคืนแห่งนี้
ที่ที่ฉันเลือกปลักหลักจ่อมจมอยู่กับตัวเอง

เดินเปลือยเท้าอยู่บนหาดทราย
ลำพัง ใช่ฉันเพียงลำพังกับความเปล่าดายที่คุ้นเคย
เสี้ยวหนึ่งของความคิด
ฉันอยากจะเดินหายลงไปเป็นส่วนหนึ่งของทะเล
จมนิ่งอยู่เช่นนั้น หลีกหนีจากบางสิ่งบางอย่าง
แต่นั่นเอง
สำนึกในใจยังตอกย้ำอย่างแน่นหนัก
ข้างหลังฉันยังมีคนที่ฉันรัก คนที่ฉันต้องห่วง ต้องดูแล
ฉันยังมีฝันที่ยังสานไม่เสร็จ
ฉันทำเช่นนั้นไม่ได้


ฉันเริ่มคุ้นชินกับอาการปวดหัวนั้น
แม้ว่ามันยังคงปวดอย่างมิได้มีทีท่าว่าจะลดลง
แต่ฉันต่างหากที่กำลังดูเหมือนจะหลงลืมมันไป
ฉันกำลังอิ่มเอมกับสิ่งที่ฉันหลงไหลหนักหนาตรงหน้า


ทะเลค่ำคืนของฉัน
ความเงียบ ความวังเวง บนผืนน้ำกว้างใหญ่

ฉันกำลังนึกถึงกลิ่นควันจาง ๆ ของบุหรี่
บุหรี่ที่ฉันยังมีติดอยู่ในรถ
แม้จะไม่ได้แตะต้องมันมากว่าสามเดือน
นึกถึงน้ำสีอำพัน ขวดเหลี่ยม-ตราดำอีกครึ่งขวด
ซึ่งถูกวางทิ้งอยู่กับกีต้าร์ที่เบาะหลังของรถ
นึกขันบางคนที่เฝ้าถามฉันว่าจะเก็บไว้เพื่อสิ่งใด
ทั้งที่พร่ำบอกว่าแยกห่างจากมันแล้ว
ฉันตอบอย่างตั้งใจ .. เก็บไว้วัดใจตัวเอง…
อย่างวันนี้ ฉันก็แค่นึกถึง แต่ไม่ได้คิดว่าจะแตะต้องมันอีก
ฉันทำมันได้ ฉันเลิกมันได้ ฉันเชื่อใจตัวเองเช่นนั้น ..

ฉันนั่งลงกลางหาดทราย
ประดุจหนึ่งว่า นี่คืออาณาจักรของฉัน
อาณาจักรอันกว้างใหญ่สุดสายตา
เบื้องหน้าคือทะเลที่ฉันรัก
ฉันนั่งอยู่ตรงนั้นนานเท่าไร .. ฉันไม่รู้ ..
อิ่มเอมกับภาพตรงหน้านั่น
ความเงียบเหงา วังเวง ที่ไม่เคยหยุดนิ่ง

คิดอะไรไปไกล
เรื่องราวต่าง ๆ หมุนวน เข้ามาอยู่ในความคิด
คิดไปถึงเรื่องราวที่ผ่านมา
เรื่องราวที่กำลังจะผ่านไป
คิดถึงชีวิตใครต่อใครที่ฉันเหมือนแบกรับไว้บนบ่า
คิดถึงเรื่องงาน เรื่องความฝันที่กำลังต่อเติม
และอีกหลายเรื่องราวที่หมุน ๆ วน ๆ อยู่ในความคิด

คิดถึงคนเคยรัก
คิดถึงคนเคยคุ้น
และหนึ่งในนั้น
ฉันคิดถึงคุณ
คิดถึงทั้งที่ไม่รู้ว่าคุณกำลังคิดถึงใคร
คิดถึง ตักอุ่นที่คุณเคยให้นอนหนุน
คิดถึง อ้อมกอดอุ่นของความรู้สึก
ไม่มีคำพูดใดระหว่างกัน
นิ่ง ๆ เงียบ ๆ แต่อุ่นใจ
ฉันคิดถึงคุณได้ใช่ไหม ....

เวลาทำหน้าที่ของมันอย่างสมบูรณ์
ทั้งที่ฉันรู้สึกเหมือนเพิ่งทิ้งตัวลงนั่งอยู่เพียงชั่วครู่
แต่เวลาผ่านไป ผ่านไป และ ผ่านไป
บัดนี้ ทะเลค่ำคืนของฉันค่อย ๆ จางหายไป
พร้อม ๆ กับการเริ่มต้นของวันใหม่

ท้องฟ้าเหนือทะเลเริ่มเปลี่ยนสี
จากครามเข้มค่อยเรืองเรื่อ
ริ้วแถบสีส้มแดงที่แซมอยู่ เด่นชัดขึ้นทุกขณะ

คงถึงเวลาที่ฉันต้องอำลาทะเลตรงหน้านี่แล้ว
ฉันต้องกลับไปทำหน้าที่ของฉัน
ฉันยังมีรอยทางของความฝันที่ต้องก้าวต่อไป
แล้ว สักวัน ฉันจะกลับมาใหม่
เชื่อใจในฉันเถอะ คำว่า “สักวัน” ของฉันมันไม่ได้ยาวนานนัก
ฉันจักพาตัวเองมาอยู่อ้อมกอดของทะเลอีกครั้ง
แม้ไม่รู้ว่า ทะเลตรงหน้าในครั้งต่อไปจะเป็นที่ไหน
แต่เชื่อใจฉันได้ว่า ฉันไม่เคยห่างหายจากทะเลไปนานนัก
เพราะนี่คืออีกสิ่งที่ฉันรัก …
และมักอยู่กับฉันเสมอยามเหนื่อยล้า
ฉันจะกลับมา …
ฉันสัญญา … ฉันสัญญาด้วยใจ …


จอมเทียน พัทยา
-------------------
๐๗.๐๔.๒๕๔๖

เขินอ่ะ

อะไรก็ไม่รู้

เห็นด้วยๆ
2

ซึ้งจังเลย

ขำฮาตรึม

มีผู้แสดงความรู้สึก (2 คน)

ความคิดเห็น (0 ความคิดเห็น)

facelist doodle วาดภาพ

คุณต้องเข้าสู่ระบบก่อนจึงจะสามารถแสดงความคิดเห็นได้ เข้าสู่ระบบ | สมัครสมาชิก

@un ID 826

  • อันดับ
    Level.12
  • เครดิต
    13060
  • เครดิต
    13060
  • เงินยูโร
    385901
  • จิตพิสัย
    256101
  • ทอง
    12844
TOP