สุขภาพดีอาจจะหาซื้อไม่ได้แต่เป็นเจ้าของได้แน่นอน ถ้าสาวๆ ทำตามเคล็ดลับเหล่านี้ 1. แอปเปิ้ล แตงโม กล้วย กีวีต้องระวัง
ผล
ไม้ทั้ง 3 ชนิดนี้มีประโยชน์มาก แต่ถ้าคุณกำลังทานยาปฏิชีวนะอยู่
ผลไม้พวกนี้จะกลายเป็นโทษทันทีเพราะมันบูดในลำไส้ได้ง่าย
อาจจะทำให้เกิดอาการอักเสบในระบบทางเดินอาหารได้
2. ผลไม้กับมื้ออาหาร
ก่อน
ทานอาหารควรจะเรยีกน้ำย่อยด้วยสับปะรดและมะละกอสัก 2-3 ชิ้น
ผลไม้สองชนิดนี้มีเอนไซม์ที่จะช่วยให้กระเพาะย่อยอาหารมื้อหลักที่กำลังจะ
ตามลงมาได้ง่ายขึ้น และหลังจากจบมื้ออร่อยแล้วควรตบท้ายด้วยแอปเปิ้ลสัก 1
ชิ้นเพื่อช่วยเพิ่มปริมาณน้ำลายซึ่งจะทำให้จำนวนแบคทีเรียในช่องปากลดลง
และช่วยให้เหงือกแข็งแรงด้วย
3. อย่าปล่อยให้หิวควร
จะทานอาหารให้ตรงเวลาทุกวันแม้จะยังไม่รู้สึกหิวก็ตาม
เพราะเวลาที่เราหิวร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนควมเครียดออกมา
ถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้เป็นประจำก็จะทำให้คุณกลายเป็นสาวเครียด
และนำไปสู่อาการความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ หรือเบาหวาน
4. เนื้อสัตว์กับผลไม้ไม่เข้ากันถ้า
ทานน้อยๆ ก็ไม่เป็นไร
แต่ถ้ามื้อไหนคุณทานเนื้อเป็นจำนวนมากแล้วควรจะงดผลไม้ไป
เพราะกว่าเนื้อจะย่อยหมดต้องใช้เวลานาน
ส่าวนผลไม้ซึ่งย่อยเร็วจะถูกกักอยู่ในกระเพาะ
จึงทำให้เกิดกรดในกระเพาะอาหารได้
5. นาฬิกาชีวภาพ
หลัก
การสุขภาพดีบอกไว้ว่าเราควรจะเข้านอนในเวลาเดียวกันทุกๆ วัน
แต่ส่วนใหญ่พอถึงคืนวันศุกร์กับวันเสาร์เรามักจะนอนดึกเพราะถือว่าเป็นวัน
หยุด การทำอย่างนี้จะทำให้ความเคยชินหรือที่เรียกว่าชีวภาพของร่างกายรวรเร
จึงไม่ต้องแปลกใจเลยที่วันจันทร์เราจะง่วงนอนกว่าปกติ
6. ความเครียดทำลายผิว ถ้า
อยากผิวสวย แก่ช้า ดูอ่อนกว่าวัย สิ่งแรกที่ต้องปรับคือความคิดของตัวเราเอง
พยายามคิดในทางบวก มองโลกในแง่ดี หลีกเลี่ยงความคิดที่ทำให้ตึงเครียด
เพื่อไม่ให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนความเครียดออกทำลายตัวเราเอง
7. หลีกเลี่ยงภาชนะพลาสติกเพราะ
ความร้อนรวมทั้งรสชาติเผ็ดเปรี้ยว
เค็มจากอาหารสามารถเข้าไปกัดเซาะสารสังเคราะห์ในพลาสติกให้ละลายออกปะปนกับ
อาหารได้ตลอดเวลา
โดยเฉพาะการใช้ภาชนะพลาสติกใส่อาหารเข้าอุ่นในเตาไมโครเวฟยิ่งเป็นสิ่งที่
ต้องหลีกเลี่ยง เพราะเป็นการเสี่ยงต่อมะเร็งเต้านมเป็นอย่างมาก
8. อย่าประมาทอาการไอเรื้อรัง
หลัง
จากหายหวัดแล้วอาการไออาจจะยังไม่หายไป
แต่สาวหลายคนมักจะไม่สนใจเพราะคิดว่าอาการไอเป็นเรื่องชิลๆ
แต่ที่จริงอาการไอเรื้อรังร้ายแรงกว่าที่คุณคิด
เพราะมันอาจเกิดจากการติดเชื้อไวรัส ยาปฏิชีวนะ
ที่หมอให้มารักษาอาการหวัดไม่สามารถฆ่าเชื้อไวรัสได้
วิธีหยุดอาการไอที่ได้ผลที่สุดคือการดื่มน้ำบ่อยๆ
เพื่อลดเสมหะในทางเดินหายใจ
และนอนหลับให้เพียงพอเพื่อให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายทำงานได้เต็มที่
9. เท้าและข้อเท้าบวมถ้า
มีอาการแบบนี้อย่าปล่อยไว้
เพราะฝ่าเท้าเป็นศูนย์รวมของเส้นประสาททั่วร่างกาย
ถ้าบริเวณเท้ามีปัญหาก็จะส่งผลถึงร่างกายทุกส่วน วิธีแก้ไขคือให้นั่งยองๆ
ทุกวันๆ ละ 15
นาทีจากนั้นก็ขยับข้อเท้าไปข้างหน้าและข้างหลังเพื่อช่วยให้เลือดไหลเวียน
ได้ดีขึ้น หลังจากนั้นใช้แปรงขนนุ่มๆ แปรงผิวหนังเบาๆ
โดยเริ่มจากฝ่าเท้าแล้วค่อยๆ ปัดไล่ขึ้นมาที่ข้อเท้า น่อง ต้นขา ท้อง
แขนไปจนสุดที่มือทั้งสองข้าง
(ยกเว้นผู้ที่เป็นเบาหวานเพราะเสี่ยงจะเกิดบาดแผล)
ตบท้ายด้วยการอาบน้ำอุ่นแล้วตามด้วยน้ำเย็น จะช่วยให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น
10. งดเครื่องดื่มคาเฟอีนเครื่อง
ดื่มพวกนี้ไม่ว่าจะเป็นชาหรือกาแฟ ปกติก็ไม่ควรดื่มอยู่แล้ว
แต่ถ้าบังเอิญคุณเป็นโรคปวดหลัง เครื่องดื่มพวกนี้จะเป็นศัตรูของคุณไปทันที
เพราะคาเฟอีนจะไปลดการหลั่งสารเอนโดรฟินซึ่งมีคุณสมบัติช่วยลดอาการปวด
ตามอวัยวะต่างๆ อาการปวดของคุณก็จะไม่หายหรืออาจจะเป็นมากขึ้นด้วย
11. ดื่มน้ำเร็ว...อันตรายใครๆ
ก็บอกว่าควรจะดื่มน้ำให้ได้วันละ 8 แก้ว แต่ต้องค่อยๆ ดื่มไปตลอดวัน
ไม่ใช่ทั้งวันไม่ดื่มเลย แล้วมารวบยอดเอาในครั้งเดียว
เพราะการดื่มน้ำปริมาณมากๆ
ในครั้งเดียวอาจทำให้เกิดอาการน้ำเป็นพิษเนื่องจากเลือดเจือจาง
และอาจทำให้เป็นตะคริว กล้ามเนื้อเกร็งตามมา
ยิ่งถ้าอาการเกร็งไปเกิดที่สมอง หัวใจ หรือปอด
ก็อาจจะทำให้ระบบหายใจล้มเหลวและเสียชีวิตได้
12. แดดอ่อนตอนเช้าแสง
แดดยามเช้าจัดว่าเป็นยาตามธรรมชาติที่ทุกคนสามารถเป็นเจ้าของโดยไม่ต้องเสีย
เงินซื้อ นอกจากทำให้กระดูกแข็งแรงแล้วยังทำให้อารมณ์ดี เพราะแดดอ่อนๆ
มีวิตามินที่ช่วยกระตุ้นให้ร่างกายหลั่งสารแห่งความสุข
ออกมาต่อต้านอาการซึมเศร้าในตัวเรา
คนที่เดินเล่นรับแดดอ่อนจึงมีหน้าตาเบิกบานกว่าคนที่มัวแต่หลบแดดอยู่ในบ้าน
มาก
13. เบาหวานอย่าทานไข่ถ้า
สมาชิกในครอบครัวคุณคนไหนเป็นเบาหวาน ควรให้เขางดไข่ไปเลย
เพราะมีรายงานทางการแพทย์ว่าถ้าคนที่เป็นเบาหวานทานไข่อาทิตย์ละ 1 ฟอง
จะมีโอกาสเป็นโรคหัวใจมากขึ้น
14. อยากผอมต้องน้ำเย็น
การ
ดื่มน้ำเย็น 50 ออนซ์ จะช่วยเผาผลาญพลังงานเพิ่มขึ้นวันละ 50 แคลอรี
ช่วยให้น้ำหนักลดลงปีละ 2.5 กิโลกรัม
เพราะเมื่อเราดื่มน้ำเย็นร่างกายต้องใช้พลังงานในการทำให้น้ำนั้นเปลี่ยน
อุณหภูมิเป็นอุณหภูมิปกติก่อน แล้วจึงนำไปใช้ได้
จึงเป็นการใช้พลังงานมากกว่าเดิม
15. สุขภาพดีทันทีที่ตื่นถ้า
อยากดูแลสุขภาพพร้อมกับการเริ่มต้นวันใหม่ ทันทีที่ตื่นนอนสาวๆ
ควรผสมน้ำส้มสายชู (ที่หมักจากผลแอปเปิ้ล) กับน้ำผึ้งในสัดส่วนเท่ากัน
ใส่น้ำอุ่นนิดหน่อย คนให้เข้ากันแล้วนำมาดื่ม
จะช่วยให้การดูดซึมของระบบลำไส้และการเผาผลาญของร่างกายทำงานได้ดีตลอดวัน
16. ผู้ชายอย่าพลาดมะเขือเทศสำหรับ
หนุ่มซ่าที่กำลังเริ่มมีอาการเตะปี๊ปไม่ดังหรือกลัวว่าจะเป็นหมัน
มะเขือเทศคือผลไม้ที่คุณจะพลาดไม่ได้ เพราะมะเขือเทศสุกมีสารโคปีนสูงมาก
ช่วยให้ต่อมลูกหมากทำงานได้ดี ประสิทธิ์ภาพและสมรรถภาพต่างๆ
จึงทำงานได้เป็นปกติ ถ้าผู้ชายทานมะเขือเทศอย่างน้อยอาทิตย์ละ 10
ผลหรือมากกว่านั้น ความเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก ก็จะน้อยลง 45
เปอร์เซ็นต์ ที่สำคัญควรจะทานแบบสุกๆ เช่น ทานเป็นน้ำพริกอ่อง สปาเก็ตตี้
เพราะเวลามะเขือเทศถูกความร้อนมันจะปล่อยสารไลโคปีนออกมามากขึ้น
17. ป้องกันกรดในกระเพาะอาหารสำหรับ
ที่ท้องอืดบ่อย ควรลดปริมาณการดื่มน้ำผลไม้เข้มข้นอย่างเช่น มะนาว ส้ม
ส้มโอ เกรฟฟรุต หรือน้ำมะเขือเทศสดนั่น เพราะน้ำพวกนี้มีกรดมากทำให้ท้องอืด
หรือถ้าเสพติดไปแล้วอดไม่ได้จริงๆ
ก็อาจจะทำให้เจือจางลงด้วยการผสมน้ำมากๆ
18. หลบอัลไซเมอร์ด้วยเกมถ้า
ไม่อยากเป็นอัลไซเมอร์หรือเป็นโรคขี้หลงขี้ลืม สาวๆ
ควรจะฝึกสมองด้วยการเล่นเกมที่ต้องใช้สมาธิ เช่น ปริศนาอักษรไขว้
เกมในคอมพิวเตอร์ หรืออาจจะทำกิจกรรมที่ต้องใช้สมาธิอย่างเรียนดนตรี
เล่นหมากรุก เป็นต้น
เพราะเกมเหล่านี้จะช่วยให้ระบบประสาททำงานเชื่อมต่อกันอย่างมีประสิทธิภาพ