ความนิยม 6|
คนที่มีประสบการณ์ดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้ายคงตระหนักดีว่า มันเป็นช่วงเวลาที่ไม่คุ้นเคยและยากจะรักษาใจให้สงบมั่นคงได้ หลายคนเต็มไปด้วยความเศร้าโศกเสียใจและหวาดกลัวต่อการพลัดพรากที่จะมาถึง หลายคนรู้สึกสับสนเคว้งคว้างว่าชีวิตข้างหน้าจะเป็นอย่างไรหลังจากไม่มีเธอหรือเขาผู้นั้นอีกแล้ว ขณะเดียวกันก็ต้องเหน็ดเหนื่อยในการเฝ้าดูแล และยังต้องเผชิญกับอารมณ์ของตนที่ยากจะยับยั้งเมื่อต้องปะทะกับอารมณ์อันปรวนแปรของผู้ป่วย
แต่ก็มีหลายคนที่ประจักษ์ว่าไม่ใช่เราผู้ดูแลเท่านั้นที่เป็นฝ่ายให้ ผู้ป่วยก็เป็นฝ่ายให้โอกาสเราได้เรียนรู้เพื่อเปลี่ยนแปลงทางจิตวิญญาณ ให้เราได้สัมผัสความดีงามภายในของตนที่ผลิบานงอกงามอย่างน่าอัศจรรย์ เพราะเมื่อเราดูแลผู้ป่วยด้วยหัวใจที่เกิดกว้าง เราย่อมรับรู้ถึงความทุกข์ของเขา ทั้งความเจ็บปวดทรมานทางกาย ความหวาดกลัว ความสับสนและห่วงกัวในเรื่องคนใกล้ชิดที่ยังต้องอยู่ต่อไป ความรู้สึกผิดปาปที่คั่งค้างในใจ และโหยหาความรักความเข้าใจจากคนที่เขารัก ซึ่งเมื่อเวลานั้นมาถึงเราบ้าง เราคงรู้สึกไม่แตกต่างไปจากนี้มากนัก
ดังเช่นที่ผู้มีประสบการณ์ดูและผู้ป่วยระยะสุดท้ายหลายคนได้ถ่ายทอดเสียงสะท้อนจากภายใน อันเป็นข้อคิดคำนึงดีๆ สำหรับชีวิตและสังคมที่อยากจะแบ่งปันให้เราทั้งหลายที่ยังต้องอยู่ต่อไปดังนี้
?ทำให้ฉันได้ใคร่ครวญว่า วันเวลาที่เหลืออยู่ฉันจะตั้งหน้าตั้งตาแสวงหาเงินทองทรัพย์สินมากมายล้นพ้นไปทำไมกัน เพราะถึงจะมีอยู่มากเพียงใดก็ไม่สามารถแบ่งเบาความขมขื่นจากการพลัดพรากได้แม้สักนิด
ฉันอยากให้ชีวิตที่เหลืออยู่ได้สัมผัสความสุขเย็นภายในมากขึ้น หยุดแสวงหาวัตถุทั้งหลายลงบ้าน การทำจิตใจให้สงบด้วยสมาธิช่วยให้ชีวิตมีความมั่นคงภายใจมากขึ้น มองเห็นรอยยิ้มและความสุขของคนอื่นได้ชัดเจนขึ้น ซึ่งที่ผ่านมาฉันแทบไม่เคยใส่ใจรับรู้ เนื่องเพราะชีวิตที่วุ่นวายสับสนเกินไป?
?ฉันกับเพื่อที่อยู่ห้องดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้ายได้เห็นมาตลอดว่า ความทุกข์ทรมานจากความตายนั้นมีมากมายเหลือเกิน แต่ทำไมสังคมทุกวันนี้กลับเต็มไปด้วยการใช้ความรุนแรงเข่นฆ่ากัน ราวกับความตายของคนไม่มีความหมายอะไร ความรุนแรงต่างๆ ช่วยกระตุ้นเตือนให้พวกเราที่ทำงานใกล้ชิดกับความตายได้ตระหนักว่า จะต้องหลีกเลี่ยงการเป็นส่วนหนึ่งของความรุนแรง ร่วมมือเพื่อหยุดยั้งการใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบ เริ่มที่การใคร่ครวญสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นอย่างมีวิจารณญาณ จะได้ไม่ตกสู่หลุมพรางของความรุนแรง ช่วยกันสะกิดเตือนให้ใจกว้างต่อความแตกต่างหลากหลาย และช่วยกันสนับสนุนทางเลือกออกจากปัญหาต่างๆ ด้วยสันติวิธี?
?การร่วมเผชิญความตายของคนที่เราผูกพันใกล้ชิดนั้น เป็นโอกาสสำคัญที่ช่วยให้เราฉุกคิดและทบทวนย่างก้าวของชีวิตที่เหลืออยู่ว่า ชีวิตที่มีคุณค่าและดีงามควรเป็นอย่างไร และเราจะใช้ชีวิตอย่างไม่ประมาทได้อย่างไร
เราต้องเตือนสติตัวเองอยู่เสมอว่าอีกไม่นานชีวิตก็ต้องคืนสู่ธรรมชาติ ดังนั้นหากมีกิจสิ่งใดที่จะนำไปสู่ความสุขกายสบายใจ เราจะไม่ผัดผ่อนแต่จะทำอย่างต่อเนื่อง แม้จะทำได้ทีละเล็กทีละน้อยก็ตาม โดยเฉพาะการฝึกฝนเพื่อเปลี่ยนแปลงทางจิตวิญญาณด้วยการทำจิตใจให้สงบตั้งมั่น รวมถึงฝึกฝนจิตใจให้คลายจากความรู้สึกว่ามีตัวเรา มีของของเรา ซึ่งนั่นก็เท่ากับเราเริ่มเตรียมตัวที่จะเผชิญความตายด้วยใจที่สงบแล้ว เพราะเมื่อเวลานั้นมาถึง เราย่อมพร้อมมากขึ้นในการเผชิญความจริงของชีวิตที่เราเคยหวาดกลัวกันมาตลอด?
ขอบคุณที่มา emsikkha.org
ขอบคุณ kulasang. ที่ทำให้ได้พบและเจอมิตรภาพที่แสนดี ได้เก็บสิ่งชอบ ..ที่ดี ..ให้เข้ามาอ่าน มาดู มาฟัง ได้บ่อย ๆ และที่สำคัญทำให้ได้ขีด ได้เขียน ได้ระบาย ความรู้สึกในวันที่เหงา เศร้า เป็นทุกข์ และในวันที่มีความสุข....
" ขอใจเธอ...จงเข้มแข็ง
อย่าอ่อนแรง อย่าหวั่นไหว
สิ่งที่เผชิญ..แม้จะหนัก...สักเท่าไหร่
เข้มแข็ง....เข้มแข็งไว้...นะคนดี"
เขินอ่ะ |
อะไรก็ไม่รู้ |
4
เห็นด้วยๆ |
2
ซึ้งจังเลย |
ขำฮาตรึม |