อยู่อย่างไรให้หัวใจแข็งแรง
ความนิยม 2เข้าชม/อ่าน 506 ครั้ง2011-9-23 04:28
โรคหัวใจหลอดเลือด เป็นโรคที่ทำให้ผู้คนเสียชีวิตในอันดับต้นๆ ซึ่งในบางครั้งเจ้าตัวยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองเป็นโรคชนิดนี้ หรือบางครั้งมีอาการ แต่ตรวจไม่พบความผิดปรกติแต่อย่างใด หรือบางท่านอาจออกกำลังกายเป็นประจำ โดยคิดว่าน่าจะห่างไกลจากโรคนี้ แต่ก็มีที่หัวใจวายในขณะวิ่งออกกำลังกาย หรือก็มีหัวใจวายในขณะนอนหลับ เป็นต้น อาการเหล่านี้เรียกว่าโรคหัวใจชนิดซุ่มซ่อน เป็นภัยเงียบที่คุกคามชีวิตผู้คนจำนวนไม่น้อย ดังนั้นการป้องกันการเกิดโรคนี้จึงมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง
สาเหตุของโรคนี้ หลักๆก็มี 3 อย่าง คือ โรคเกิดจากปาก ซึ่งก็คือการกิน สองก็คือ ขาดการออกกำลังกาย สามก็คือ ความเหนื่อยล้า ความเครียด ความกดดัน ผู้เขียนอยากเติมอีกสาเหตุหนึ่งก็คือการใช้ยาที่ขมและเย็นต่อเนื่องกันเป็นเวลานานเกินไปอย่างที่ตัวเองเผชิญอยู่ในขณะนี้
เรามาเริ่มต้นจาก การกิน ทุกวันนี้อาหารการกินจะมีหลากหลายและรสชาติก็มีการปรุงแต่งที่ชวนกินยิ่งขึ้น อาหารก็ไม่ได้จำกัดว่าเป็นของบ้านเราหรือของต่างประเทศ ความเคยชินในการบริโภคก็เปลี่ยนไป เมื่อมีเงินในกระเป๋าก็สามารถหากินอาหารแบบตะวันตกได้อย่างสะดวกสบายตามใจต้องการ บ้านเราเป็นเมืองร้อน ไม่ควรกินอาหารที่มีแป้ง น้ำตาล นมเนยและเนื้อสัตว์มากเกินไป ไม่ควรจะตามใจปากและตามใจต้องการมากเกินไป ต้องรู้จักหักห้ามใจในสิ่งที่ชอบแต่ไม่เป็นผลดีต่อร่างกาย กินอาหารให้หลากหลาย กินแต่พออิ่ม กินผักและผลไม้ให้มากและยังต้องมีหลักในการกินด้วย ซึ่งก็คือ
1. 3 น้อย 3 มาก
3 น้อยก็คือ
(1) เกลือน้อย ซึ่งก็คือไม่ควรกินเค็มมาก ยิ่งผู้ที่เป็นโรคความดันโลหิตสูง โรคไต โรคหัวใจยิ่งต้องระมัดระวังเรื่องเกลือเข้าไปมาก ในคนปรกติเกลือควรอยู่ในวันละ 6 กรัม ส่วนผู้ที่เป็นโรคดังที่กล่าวมาต้องต่ำกว่า 5 กรัมต่อวัน
(2) น้ำมันน้อย เรารู้กันอยู่ว่าน้ำมัน ทำให้ไขมันในเส้นเลือดสูง ดังนั้นการกินน้ำมันจึงควรต่ำกว่า 25 กรัมใน 1 วัน บ้านเรามักมีอาหารปิ้ง ย่าง นึ่ง น้ำพริก แจ่วกับผัดสด ผักลวก ที่ไม่ต้องใช้น้ำมันเลย
(3) น้ำตาลน้อย ไม่ใช่ว่าเป็นเบาหวานแล้วจึงจะกินน้ำตาลน้อย ยังไม่เป็นเบาหวานก็ควรระมัดระวังเรื่องอาหารหรือขนมที่หวานจัด หรือกินของหวานเป็นประจำ
3 มากก็คือ
(1) เปรี้ยว เช่น ส้ม แอปเปิ้ล ซานจา ลูกกีวี ความเปรี้ยวจะช่วยลดไขมันในเส้นเลือดได้ดี แต่ไม่ควรกินมากจนเกินไป ควรกินอย่างละน้อยๆแต่หลายๆอย่าง
(2) เผ็ด เช่นพริก หัวหอม ขิง กระเทียม อย่างกระเทียม กินในฤดูร้อนจะช่วยทำให้ระบบย่อยดี กินในฤดูหนาวจะทำให้ไม่เป็นหวัดง่าย กินประจำทำให้เลือดไม่หนืด ป้องกันเส้นเลือดแข็ง แต่ไม่ควรกินมาก กินครั้งละ1-2กลีบก็พอ
(3) ขม เช่น มะระ ชาขมใบเดี่ยว จะช่วยขับพิษ ช่วยลดไขมันในเส้นเลือด เป็นต้น
ทั้งหมดนี้ต้องมีข้อแม้ว่าต้องขึ้นกับร่างกายของแต่ละคน เช่นถ้า เส้นตับร้อน การกินเปรี้ยวมากจะทำให้เส้นตับร้อนมากขึ้น ถ้าร่างกายเย็นอยู่แล้ว กินของเย็นของขมก็จะทำให้เย็นเข้าเส้นหัวใจทำให้เป็นอย่างที่ผู้เขียนเป็นมาแล้ว ดังนั้น การเรียนรู้เรื่องการกิน การหัดสังเกตในการกิน คุณก็จะสามารถกุมตัวเองได้ ก็จะสามารถดูแลตัวเองให้แข็งแรงได้
2. การกินเนื้อสัตว์ ก็ต้องมีหลัก หลักที่ว่าก็คือ กินเนื้อขาวกับเนื้อแดง
เนื้อขาว ก็คือ เนื้อไก่ เนื้อเป็ด เนื้อห่าน เนื้อปลา เนื้อกุ้ง เนื้อปู ในเนื้อเหล่านี้มีประโยชน์อย่างไรมีข้อมูลมากมายอยู่แล้ว เราควรกินมากกว่าเนื้อแดง
เนื้อแดง ก็คือ เนื้อหมู เนื้อวัว เครื่องในสัตว์ เป็นต้น เนื้อแดงจะมีคลอเรสเตอรอลมาก ถ้ากินมากจะทำให้มีมากเกินความต้องการของร่างกาย แล้วไปสะสมเกาะที่หลอดเลือด และทำให้เลือดหนืด จึงควรกินแต่น้อย
3. การดื่มเหล้า สูบบุหรี่
บุหรี่ไม่ควรสูบ โทษมีอะไรบ้าง มีข้อมูลมากมายอยู่แล้ว เหล้าไม่ควรดื่ม ถ้าเลี่ยงไม่ได้ควรดื่มแต่พอเหมาะ เช่น เหล้าขาววันละ 1 เป๊ก หรือเบียร์แค่วันละ 1 ขวด หรือเหล้าองุ่นวันละ 100 ซีซี.ก็พอ เพราะมีรายงานว่าชาวผรั่งเศสมีสถิติเป็นโรคหัวใจหลอดเลือดน้อยกว่าทุกประเทศ เป็นเพราะ ชาวผรั่งเศสชอบดื่มไวท์ แต่ถึงอย่างไรก็ไม่ดื่มได้เป็นดีที่สุด การดื่มมากๆในเวลาสั้นๆยิ่งมีโทษมาก ดังนั้นเวลากินเลี้ยงชนแก้วดื่มหมดกันบ่อยๆจึงไม่ควรเช่นกัน
การดื่มน้ำ ผู้สูงอายุ ต้องดื่มน้ำบ่อยๆ ดื่มน้ำมาก เพราะพออายุมากจะไม่มีความกระหายน้ำ บางครั้งทำอะไรเพลินๆ จนลืมดื่มน้ำ ต้องตั้งใจดื่มเอง และกลางดึกถ้าตื่นมาก็ดื่มน้ำได้ เพราะจะช่วยให้เลือดไม่หนืด สังเกตไหมว่า ผู้ที่เป็นโรคหัวใจขาดเลือด นอกจากกำเริบในตอนทำงานหรือเคลื่อนไหวมากแล้ว ยังมักกำเริบในเวลาเช้ามืด เพราะนอนกลางคืนเลือดไหลช้า ถ้าบวกกับเลือดหนืดด้วยแล้วก็ทำให้โอกาสกำเริบมีมากยิ่งขึ้น
บ้านหมอไพร
มีผู้แสดงความรู้สึก (2 คน)