บล็อก

เรื่องเล่า..เต่า กับ เหี้ย

ความนิยม 4เข้าชม/อ่าน 656 ครั้ง2011-10-1 05:14

เก็บมาฝาก

      ไม่รู้เป็นเพราะกาแฟเย็น ร้านหน้าประตูทางเข้าหรือเปล่า เราถึงต้องมานั่งอยู่ในห้องน้ำ สวนสัตว์เขาดินวนา ตอนซื้อคนขายก็หน้าบูดบอกบุญไม่รับอยู่แล้ว ดูดเดินดูสัตว์ได้ไม่กี่ตัว ข้าศึกก็ยกทับมาจ่อที่ประตูหลังซะแล้ว นึกในใจขณะนั่งในห้องแคบๆสะอาดตาและจมูกว่า เอาวะ..อย่างน้อยชาตินี้ ข้าก็เคยได้ขี้รดสวนสัตว์เขาดินมาแล้ว

   หากย้อนกลับเมื่อยี่สิบกว่าปีก่อน การมาเขาดินวันนี้ ความรู้สึกคงต่างจากที่เป็นอยู่ ฮิปโป เก้งเผือก ลิง ค่าง บ่างชะนี ไม่สามารถสร้างความตื่นเต้นแปลกตาแปลกใจให้กับคนวัยสามสิบต้นๆ อย่างผมไปแล้ว เขาดินในสายตาข้าพเจ้า ในวันนี้จึงมีสภาพไม่ต่างจากสวนสาธารณะกลางเมือง ที่มีบริเวณกว้าง มีต้นไม้และสัตว์ป่าให้ดูเพื่อพักผ่อนหย่อนใจ แต่เขาดินในวันนี้ ก็ใช่จะไม่มีอะไรพิเศษในสายตาผม เพราะเมื่อผมเดินผ่านบริเวณด้านหลัง ครัววังวนา ริมน้ำขวามือ ผมเห็นหมู่มวลสมาชิกตัวเหี้ยวัยละอ่อนกว่าสิบตัว นอนอาบแดดอยู่อย่างสบายใจ ผมยืนดูพวกมันอยู่นาน พวกมันก็ไม่ได้แยแสผมแม้แต่น้อย เมื่อลองเดินเข้าไปใกล้ๆ มันก็แค่ใช้หางตาเหลือบมาเมียงมอง แล้วนอนอาบแดดต่อราวกับจะประกาศกับผมว่า“ที่นี่ถิ่นใคร เป็นถิ่นใครให้มันรู้บ้าง

   เสียงเด็กๆตะโกนเล่นกันขณะปั่นจักรยาน อิสระทำให้เด็กนักเรียนที่มาทัศนะศึกษา มีความกล้ามากยิ่งขึ้น แดดย่ามบ่ายทำให้ผมต้องหาที่หลบพัก ได้ศาลาริมน้ำแสนสงบหย่อนก้น รื้อค้นหนังสือที่เตรียมมา จะอ่าน พลันสายตาก็ไปสะดุดกับบางสิ่ง….

  เหี้ย…ผมอุทาน

   เหี้ย แม่งจะแดกเต่า ผมอุทานเป็นครั้งที่สอง ตัวเหี้ยมันยังไม่ได้กินเต่าอย่างที่ผมอุทานจริงๆหรอกครับ มันแค่กำลังพยายามอยู่ ขณะที่เต่าน้อยผู้น่าสงสารพยายามดิ้นรนเอาชีวิตรอด ผมรีบลุกไปดูใกล้ๆใกล้พอที่จะเอามือลูบหัวเหี้ยได้เลย มันไม่กลัวผม ผมก็ไม่กลัวมัน ผมหวังว่าการเข้าไปใกล้ๆจะทำให้มันยอมคายเต่าออกจากปาก แล้วหันมาเล่นงานผมแทน (แมนโคตรๆ) แต่ไร้ผล ขณะที่เต่าน้อยก็พยายามยื่นหน้าออกมาจากกระดอง มันมองหน้าผม แววตาของมันบอกกับผมว่า ผมคนเดียวเท่านั้นที่จะช่วยมันได้ เต่าน้อยอาจจะคิดเช่นนั้น แต่ผมก็อยากจะบอกกับมันว่าผมก็ไม่รู้จะช่วยมันยังไง เหี้ยขยับขากรรไกรบดลงไปบนกระดองเต่าอีกครั้ง ขณะที่เต่าใช้วิธีหดหัวและขากลับเข้าไปในเสื้อเกราะแข็งแกร่ง สัญชาติญาณ บอกกับผมว่าศึกครานี้อาจยืดเยื้อยาวนาน หากผมไม่ยื่นมือเข้าไปทำอะไรสักอย่าง แล้วความหวัง ก็กระจ่างราวกับฟ้าหลังฝน เมื่อมีเด็กนักเรียนสี่คน ปั่นจักรยานสองคันผ่านมาพอดี  วัยรุ่น มานี่หน่อย ผมเรียก เหี้ยมันกำลังจะกินเต่า พวกเราช่วยมันหน่อยสิ หนึ่งในสี่รีบโดดลงจากรถแล้วมาช่วย ขณะที่อีกสามยังยืนคุมเชิงอยู่ที่รถ พยายามช่วยคิดหาทางช่วย  เฮ้ย กูว่าไปบอกครูดีกว่า

   มึงจะไปบอกเขาทำเหี้ยอะไร ต้องไปบอกเจ้าหน้าที่สิ

   เออนั่นสิ ผมก็ลืมคิดไป เด็กที่เข้ามาช่วยผมพยายามใช้ไม่ไปเขี่ยๆ และตีที่หัวเหี้ยเบาๆ แต่เหี้ยก็ยังไม่ยอมปล่อย แถมยังออกอาการโมโหให้เห็นอีก

   ตีอีก ผมบอก เด็กนักเรียนพยายามจะตี ตามคำสั่ง แต่เหี้ยก็เหมือนจะฟังออกรีบมุดเข้าไปหลบใต้พุ่มไม้ดัดที่ริมสระน้ำทันที ทำให้ตีมันได้ลำบาก ผมพยายามกระทืบเท้าขู่ เด็กนักเรียนพยายามฟาดไปตามกิ่งไม้ ขณะที่เต่าก็พยายามตะโกนร้อง ขอให้ช่วยชีวิตของมัน (ผมคิดไปเอง) แต่เชื่อว่ามันคงทำไปแล้ว (ถ้ามันทำได้) เหี้ยเองก็เหมือนจะรำคาญ มันหันหัวเตรียมโดดลงสระน้ำ

   เออๆลงน้ำไปเลยก็ดี ผมบอก เพราะคิดตื่นๆแค่ว่า ถ้าเหี้ยมันโดดลงน้ำแล้วมันหายใจทางจมูกไม่ทัน มันก็ต้องหายใจทางปากและนั่นมันก็คงจะคายเต่าทิ้ง เจ้าเต่าน้อยก็จะได้รับอิสระ เหี้ย โดดลงน้ำตูมแล้วหายไปชั่วอึดใจ ก่อนจะโผล่ขึ้นเหนือน้ำอีกครั้ง แต่ผมเดาผิด เต่ายังคาอยู่ในปาก สายตาของทั้งเหี้ยและเต่ายังคงจับจ้องมาที่ผม แต่ผมเชื่อว่าความคิดของมันคงต่างกัน เต่า อาจจะยังพยายามวิงวอนอ้อนขอให้ผมโดดตามลงไปช่วย ขณะที่เหี้ยอาจจะกำลังเยาะเย้ยหรือโกรธแค้นชิงชังผม เพราะมันกำลังจะได้กินของอร่อยๆอยู่แท้ๆแต่ผมดันเข้าไปยุ่งไม่เข้าเรื่อง

  ไอ้เหี้ยเอ้ย…แค่นี้ก็ช่วยไม่ได้หนึ่งในสามที่ยืนรออยู่ที่รถด่าเพื่อน (หวังว่าคงไม่ได้ด่าผม) ขณะที่เพื่อนผู้ใจดีเดินกลับไปที่รถ ขณะที่ผมกำลังเดินตามเหี้ยที่กำลังว่ายน้ำเลียบเลาะฝั่งไปเรื่อยๆ เพื่อดูว่ามันจะเอาเต่าขึ้นไปกินตรงไหน แต่เหี้ยมันคงอ่านใจผมออก มันมุดลงน้ำอีกครั้งและคราวนี้ มันก็หายไปเลย แต่การที่ไม่เห็นชะตากรรมของเจ้าเต่าตัวนั้น มันก็ยังเปิดช่องให้ผมมองโลกในแง่ดีได้อยู่ ว่าถ้าเหี้ยมันโดดลงน้ำแล้วมันหายใจทางจมูกไม่ทัน มันก็ต้องหายใจทางปาก และนั่นมันก็คงจะคายเต่าทิ้ง เจ้าเต่าน้อยก็คงจะได้รับอิสระ

   ผมเดินกลับมาหย่อนก้นลงที่เดิมอีกครั้ง เขียนเรื่องราวที่พึ่งเกิดขึ้นลงสมุดบันทึกแต่แล้วก็ต้องประหลาดใจ เมื่อเงยหน้าขึ้นพักสายตาด้วยการมองลงไปในสระน้ำ เหี้ย ได้โผล่หัวลอยคอมองผมอยู่ก่อนแล้ว ผมได้แต่หวังว่ามันจะเป็นเหี้ยวัยละอ่อนตัวเดิม แม้โอกาสจะเป็นตัวอื่นก็มีอยู่มาก แต่ดูจากแววตาที่มันจ้องมองมาที่ผม ขณะที่ปากของมันว่างเปล่า ราวกับว่ามันกำลังโกรธ ซึ่งการกระทำของมันทำให้ผมคิดเข้าข้างตัวเองอีกครั้งว่า…. เหี้ย มันคงหายใจทางจมูกไม่ทัน มันต้องหายใจทางปาก และนั่นก็คงจะต้องคายเต่าทิ้ง เจ้าเต่าน้อยก็คงจะได้รับอิสระ

   ก่อนถึงประตู 4 หรือประตูที่อยู่ด้านถนนอู่ทองใน ถ้าคุณเดินออกมาจากด้านในซ้ายมือจะเป็นเวทีสำหรับการแสดง ขวามือจะเป็นกรงนก ฟามิงโก้ และเมื่อเดินตรงมาอีกนิดจะเป็นร้านขายน้ำมีที่นั่งติดริมสระ ต้นหูกว้างขนาดใหญ่แผ่กิ่งก้านให้ร่มเงา ดูร่มเย็น นอกจากร้านขายน้ำบริเวณตีนสะพานข้ามไปอีกฝั่ง มีร้านขายขนมปัง บนสะพานคู่แม่ลูกกำลังให้อาหารป่า ครอบครัวฝรั่งกำลังถ่ายรูป ผมทิ้งตัวลงนั่งเก้าอี้พลาสติกสีน้ำเงิน เหยียดเท้าพาดกับรั้วเหล็ก กันเด็กตกน้ำ สายลมพัดผ่านผืนน้ำ หอบเอาลมเย็นมาปะทะใบหน้าเต็มๆ ผมหลับตาแล้วสูดหายใจเอาความสดชื่นเข้าเต็มปอด โดยไม่คาดคิด การลืมตาตื่นขึ้นมองผิวน้ำจะทำให้ผมประหลาดใจขึ้นอีกครั้ง เมื่อสัตว์ตัวน้อยที่ลอยอยู่เหนือน้ำ และกำลังจ้องมองมาที่ผมนั้น มันคือ “เต่า”น้อยตัวหนึ่ง

   ไม่ใช่..ไม่ใช่แน่ๆ ผมบอกกับตัวเอง เพราะเต่าตัวนี้มีขนาดใหญ่กว่าแถมยังมีคราบไคลตะไคร่น้ำสีเขียวเกาะเต็มกระดอง แววตาก็ดูแสนจะเป็นมิตร นกพิราบสีเทาสองตัวบินมาเกาะบนรั้วเหล็กใกล้จุดที่ผมนั่ง ทำให้ผมละสายตาจากเต่าไปชั่วครู เสียงแม่ถามลูกน้อยว่าเห็นตัวอะไร กำลังว่ายน้ำมาไหม ดึงให้ผมต้องหันไปมองเช่นกัน ตัวที่ว่ายอยู่ในน้ำนั้นมันคือตัว “เหี้ย” ขนาดใหญ่ นกพิราบอีกตัวเดินจิกอาหารที่ตกตามพื้นอยู่ที่เท้าผม สองแม่ลูกบนสะพานย้ายมายืนให้อาหารไม่ไกลจากผม เต่าในน้ำเพิ่มจำนวนมากขึ้น เจ้าตัวที่ว่ายน้ำตรงมาหาผม ว่ายเลยไปหาสองแม่ลูก สัตว์ทุกตัวที่อยู่โซนนี้ ล้วนดูเป็นมิตร….ที่กลางผืนน้ำ ผมเห็นแพไม้ไผ่ คงถูกสร้างไว้ให้สัตว์ครึ่งบก ครึ่งน้ำ ใช้เป็นสถานตากอากาศ ทั้งเต่า ทั้งเหี้ย เกยกันอาบแดดสบายใจ ภาพเล่านั้นทำให้ผมรู้สึกแปลกใจ และเริ่มตระหนักได้ว่า….เหตุการณ์ เหี้ย (จะกิน) เต่า ที่พึ่งเห็นมานั้น เราคิดผิดไปเองหรือเปล่า

ทุกสรรพสัตว์และสิ่งมีชีวิต ณ.ที่นี้อาจไม่เคยคิดปองร้ายกันอย่างที่ผมบังอาจตัดสินไปแล้ว เป็นไปได้ที่เหี้ยวัยละอ่อนกับเต่าน้อยอาจกำลังหยอกล้อเล่นกัน (ตามประสาเด็ก) มันไม่ได้กำลังเบียดเบียนซึ่งกันและกัน สายตาของทั้งสองอาจมีความหมายเป็นอย่างอื่น เจ้าเต่าน้อยอาจไม่ได้กำลังวิงวอนให้ผมช่วย แต่อาจกำลังด่าทอ ที่ผมไปขัดขวางการเล่นสนุกกับเพื่อนต่างสายพันธ์ เหี้ยเองก็อาจจะกำลังพยายามอธิบาย ขณะที่ผมสั่งให้เด็กเอาไม้ไปตีหัว

  ไม่ใช่ความผิดของฉันนะโว้ย ไม่เชื่อถามเจ้าเต่าที่อยู่ในปากฉันดูก็ได้ ในขณะที่เจ้าเต่า ก็อาจจะพยายามบอก “ใช่….ฉันให้เจ้าเพื่อนเหี้ยของฉัน พาฉันขึ้นมาเล่นบนนี้เอง

 ภาพเหี้ยกับเต่านอนอาบแดดด้วยกัน ว่ายน้ำเล่นกัน มันทำให้ผมเกิดจินตนาการไปได้ต่างๆนาๆ ที่สำคัญยังทำให้ผมได้คิดทบทวนกลับไปอีกว่า วันนี้..เราเป็นคนนอก ที่เข้ามาตัดสินอะไรด้วยสายตาเพียงอย่างเดียวหรือเปล่า การที่เราเข้ามานั่งอยู่ในสวนสัตว์เพียงไม่กี่นาที แล้วเข้าไปยุ่งกับสิ่งที่เกิดขึ้น หากลองคิดให้ดีมันก็คล้ายๆกับการที่เราไปเที่ยวบ้านคนอื่น แล้วเห็นคนในบ้านเขาทะเลาะกัน เราก็ดันไปเข้าไปยุ่งเพียงเพราะเห็นคนที่แข็งแรงกว่า กำลังทำร้ายอีกคนที่อ่อนแอ

  ผมเดินย้อนกลับไปซื้อเครื่องดื่มที่ร้านเดิมอีกครั้ง แต่คราวนี้ผมสั่งน้ำเปล่า ระหว่างรอคิวคราวนี้ผมมีเวลาสังเกต และพบว่ากาแฟของร้านนี้ เป็นกาแฟที่ชงใส่ตู้เย็นแช่เอาไว้ จึงเป็นไปได้ว่าอาจจะหมดอายุหรือบูดไปแล้ว บางครั้ง…เราก็ไม่ควรจะคาดหวังอะไรจากคนอื่นมากเกินไป แต่เราควรจะรับผิดชอบตัวเองด้วย แล้วเมื่อเกิดอะไรผิดพลาดขึ้นมา เราก็อย่าพึ่งไปเชื่อในสิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้า ซึ่งในความเป็นจริงแล้วสิ่งที่เห็นอาจไม่ได้เป็นอย่างที่เราคิด ดังนั้นก่อนจะตัดสินใครหรือตัดสินใจทำอะไร ลองถามตัวเองและดูให้รอบคอบก่อนดีกว่าไหม ว่าเรา..ไม่ได้ตัดสินใคร(หรืออะไร)ด้วยตาเปล่า


ขอบคุณ
ฟิล์มระบาย



เขินอ่ะ

อะไรก็ไม่รู้
2

เห็นด้วยๆ
1

ซึ้งจังเลย
1

ขำฮาตรึม

มีผู้แสดงความรู้สึก (4 คน)

ความคิดเห็น ความคิดเห็น (2 ความคิดเห็น)

ตอบกลับ MILIYANA5 2011-10-1 20:15
อ่า...ขำมากเลยค่ะ
ตอบกลับ friendly 2011-10-1 20:51
เหี้ยกับเต่า อยู่ดีดี  พลิกโผ  ซะงั้น

facelist doodle วาดภาพ

คุณต้องเข้าสู่ระบบก่อนจึงจะสามารถแสดงความคิดเห็นได้ เข้าสู่ระบบ | สมัครสมาชิก

Pakdeekul ID 3

  • อันดับ
    Level.25
  • เครดิต
    182536
  • เครดิต
    182536
  • เงินยูโร
    51064413
  • จิตพิสัย
    50911259
  • ทอง
    262714
TOP