อาการ
มือชาอาจเกิดขึ้นกับคุณได้ ถ้าอยากรู้ว่า มือชาเกิดจากสาเหตุอะไร
และมีวิธีป้องกัน หรือรักษาได้หรือไม่ ตามมารู้จักอาการมือชา จาก
นพ.ภานุพันธ์ ทรงเจริญ กันเลย
โรคมือชา เป็นปัญหาที่พบบ่อยในผู้ป่วยวัยกลางคน โดย
มากมักเกิดกับเพศหญิงมากกว่าชาย
ซึ่งเกิดจากการใช้งานของมือในลักษณะที่ต้องมีการกระดกข้อมือ
หรือกำยืดนิ้วมือตลอดวัน ซึ่งกลุ่มที่พบได้แก่ แม่ครัว ช่างทำผม
แม่บ้านทำความสะอาดกวาดบ้าน หรือคนทำงานในออฟฟิศที่ต้องรับโทรศัพท์
ใช้คอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน ๆ และกลุ่มผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวาน
โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ หญิงตั้งครรภ์ ผู้ป่วยโรคไตเรื้อรัง
ผู้ป่วยที่มีข้อต่อกระดูกคอเสื่อม การขาดวิตามินบี
จะมีปัจจัยที่ส่งเสริมให้เกิดมือชาได้
ทั้งนี้
อาการจะเริ่มชาที่ฝ่ามือและนิ้วมือ ในขณะที่ใช้มือทำงานอย่างต่อเนื่อง
และถ้าเป็นมากอาจมีอาการชาจนเป็นเหน็บในขณะที่ไม่ได้ใช้งาน
และมีอาการปวดตอนกลางคืนจนต้องตื่นขึ้นมากลางดึก
เพื่อขยับมือหรือบีบนวดฝ่ามือ และถ้าปล่อยไว้นานจะมีอาการอ่อนกำลังของมือ
หยิบจับสิ่งของแล้วร่วงหล่น จนถึงขั้นมีการฝ่อลีบของกล้ามเนื้อมือในที่สุด
สาเหตุ
ของมือชา ส่วนมากเกินจากการหนาตัวของเอ็นยึดกระดูกบริเวณข้อมือ
หรือที่บริเวณอุโมงค์ข้อมือ
เอ็นนี้จะไปกดรัดเส้นประสาทที่ไปเลี้ยงกล้ามเนื้อที่ฝ่ามือ
และเส้นประสาทที่ทำหน้าที่รับความรู้สึกที่ฝ่ามือ
การเคลื่อนไหวของข้อมือมาก ๆ ทำให้เกิดการระคายมากขึ้น
สำหรับ
การดูแลป้องกันต้องเริ่มจากการลดการใช้งานข้อมือที่ทำงานหนัก ๆ
ปรับท่าทางการทำงานของมือให้เหมาะสม ระหว่างการทำงาน
ข้อมือจะต้องไม่งอมากจนเกินไป
ควรใช้อุปกรณ์ช่วยประคองข้อมือสำหรับคนใช้งานคอมพิวเตอร์
เพื่อให้ข้อมือมีที่พัก เมาส์ที่ใช้ก็ต้องมีขนาดพอดีมือ ไม่เล็กจนเกินไป
เพราะจะทำให้ข้อมือเกร็งมากขึ้น
การรักษา ถ้าผู้ป่วยอาการไม่รุนแรง
จะให้ยาต้านการอักเสบของเส้นเอ็นและเส้นประสาท การให้วิตามินบี
จนถึงขั้นสุดท้ายคือ การผ่าตัดเอ็นที่ไปกดรัดเส้นประสาทนั้น ฉะนั้นการดูแล
ป้องกัน และถนอมข้อมือ เพื่อให้เราได้ใช้งานนาน ๆ เป็นสิ่งที่ควรปฏิบัติ
การใช้งานข้อมือที่ผิดท่า ผิดวิธี อาจนำมาซึ่งการรักษาที่ซับซ้อนมากขึ้น
(หมอชาวบ้าน)
|