'ไลน์' โตก้าวกระโดดชู 3 บริการใหม่ รองรับผู้ใช้งาน 300 ล้านคนในสิ้นปีนี้

gangk · โพสต์ 2013-8-26 19:28:48

สมาชิก kulasang.net เท่านั้นถึงจะสามารถเข้าเนื้อหาได้อย่างสมบูรณ์

คุณจำเป็นต้อง เข้าสู่ระบบ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? สมัครสมาชิก

x

ถือเป็นแอพพลิเคชั่นที่ฐานผู้ใช้บริการเติบโตอย่างรวดเร็วในเวลาเพียง 2 ปีกว่า ๆ สำหรับแอพพลิเคชั่นไลน์ (Line) ที่ใช้โทรฯ และส่งข้อความฟรี ซึ่งเป็นที่นิยมอย่างมากในหลาย ๆ ประเทศ ล่าสุดทาง บริษัท ไลน์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ซึ่งเป็นผู้พัฒนาไลน์ ก็ได้จัดงาน “ฮัลโหล เฟรนด์ อิน โตเกียว 2013” เพื่ออัพเดทข้อมูลกลยุทธ์และบริการใหม่ ๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้

โดยมีสื่อมวลชนทั้งจากญี่ปุ่นและต่างชาติ รวมถึงพาร์ตเนอร์เข้าร่วมงานจำนวน 1,200 คน ซึ่ง นายโมริคาว่า อาคิระ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ไลน์ คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า ในปัจจุบันแอพพลิเคชั่นไลน์มีจำนวนผู้ใช้รวม 230 ล้านคนทั่วโลก โตขึ้น 460% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว โดยในทุก 1 ชั่วโมง มีผู้ลงทะเบียนใช้งานใหม่ถึง 63,000 ราย ประเทศที่มีผู้ใช้งานมากที่สุดคือ ญี่ปุ่นจำนวน 47 ล้านคน รองลงมาคือไทย 18 ล้านคน ไต้หวัน 17 ล้านคน สเปน 15 ล้านคน และอินโดนีเซีย 14 ล้านคน และกำลังเติบโตในยุโรป แอฟริกา และลาตินอเมริกา การสื่อสารผ่านข้อความจำนวนถึง 7,000 ล้านข้อความต่อวัน เพิ่มขึ้น 440% เมื่อเทียบกับเดือน ส.ค.ปีที่แล้ว ส่วนการส่งสติกเกอร์มีถึง 1,000 ล้านตัวต่อวัน เพิ่มขึ้น 488% เมื่อเทียบกับเดือน ส.ค.ปีที่แล้ว และขณะนี้ไลน์รองรับ 17 ภาษาทั่วโลก

สำหรับกลยุทธ์เพื่อทำให้ไลน์เป็นที่รู้จักและนิยมไปทั่วโลก คือ การเจาะตลาดในแต่ละท้องถิ่น หรือภูมิภาคเน้นการใช้งานที่ง่ายและสนุกและมีคอนเทนต์หรือเนื้อหาเหมาะกับวัฒนธรรมท้องถิ่นนั้น ๆ พร้อมร่วมมือพาร์ตเนอร์ในท้องถิ่น โดยแบ่งเป็น 1. ทำไลน์เป็นภาษาท้องถิ่น 2. ทำสติกเกอร์ให้เข้ากับวัฒนธรรมท้องถิ่น 3.เมื่อมีคนใช้งานจำนวนมากระดับหนึ่ง จะขยายสาขาหรือตั้งสำนักงานไปประเทศนั้น ๆ โดยตั้งเป้าหมายจะมียอดผู้ใช้งานเพิ่มเป็น 300 ล้านคนในสิ้นปีนี้

นายมัตสุดะ จุน ประธานเจ้าหน้าที่ด้านกลยุทธ์และการตลาด ไลน์ คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า ขณะนี้ ในส่วนของ ไลน์ แฟมิลี่ มีจำนวนรวม 52 แอพพลิเคชั่น มียอดดาวน์โหลดรวม 290 ล้านครั้ง ส่วนปัจจุบันรายได้ของไลน์มาจาก 4 ช่องทาง คือ 1. ขายสติกเกอร์ 2 .ขายไอเทมบนไลน์แฟมิลี่และเกม 3. มาร์เก็ตติ้งโซลูชั่นบีทูบี และ 4 . ไลเซนส์หรือค่าลิขสิทธิ์ของที่ระลึกต่าง ๆ โดยในครึ่งปีที่ผ่านมามีรายได้รวม 9,800 ล้านเยน มีอัตราการเติบโต 32 เท่าหรือ 3,257% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวของปีก่อน ซึ่งเป็นผลมาจากการเปลี่ยนจากทูลมาเป็นแพลตฟอร์ม และมีรายได้จากการขายสติกเกอร์เดือนละ 1,030 ล้านเยน จากสติกเกอร์มากกว่า 1 หมื่นแบบ และเตรียมจะขยายช่องทางการชำระเงินซื้อสติกเกอร์และไอเทมให้มากขึ้น เช่น ตามร้านสะดวกซื้อ จากเดิมที่ผ่านบัตรเครดิต โดยจะเริ่มที่ญี่ปุ่นก่อนจะขยายไปประเทศอื่น

ส่วนบริการใหม่ ๆ ที่จะนำเข้ามาให้ใช้บริการ คือ วิดีโอคอล ให้พูดคุยสื่อสารแบบเห็นหน้ากัน โดยจะเปิดให้บริการทั่วโลกในช่วงฤดูใบไม้ร่วง 2013 ปีนี้ (ก.ย.-พ.ย.) 2.ไลน์มิวสิก ซึ่งจะเป็นบริการเพลงออนไลน์ ทั้ง เพลงสากล ญี่ปุ่น และ เค-ป๊อป ภายในปีนี้ โดยเริ่มในญี่ปุ่นก่อน จากนั้นจะขยายไปยังประเทศอื่น ๆ เนื่องจากมีเรื่องลิขสิทธิ์เข้ามาเกี่ยวข้อง ส่วนในประเทศไทยก็จะมีการคุยรายละเอียดเพื่อร่วมมือกับค่ายเพลงใหญ่ ๆ ในไทยเพื่อเปิดให้บริการในอนาคต โดยสามารถแชร์เพลงที่ซื้อในไลน์ มิวสิก ให้กับเพื่อน ๆ ได้ด้วย

และ 3. ไลน์มอลล์ จะเป็นบริการอี-คอมเมิร์ซ ขายสินค้าต่าง ๆ ให้สามารถซื้อสินค้าได้ทุกที่ทุกเวลาผ่านแอพพลิเคชั่นและสมาร์ทโฟน โดยจะเริ่มเปิดให้บริการในญี่ปุ่นก่อนในช่วงฤดูใบไม้ร่วง (ก.ย.-พ.ย.) ปีนี้ ก่อนขยายไปยังประเทศอื่น ๆ โดยจะดูจากความพร้อมในเรื่องการชำระเงิน การขนส่งสินค้า และพฤติกรรมการซื้อของออนไลน์ของคนในประเทศนั้น ๆ นอกจากนี้ยังมีการร่วมมือกับพาร์ตเนอร์ในการเปิดตัวเกมใหม่ไม่น้อยกว่า 11 เกม เริ่มตั้งแต่เดือน ก.ย.ที่จะถึงนี้

“สิ่งที่ทำให้ไลน์เหนือว่าแอพพลิเคชั่นสนทนาอื่น ๆ คือการไม่หยุดนิ่งที่จะเพิ่มบริการใหม่ ๆ เพื่อเป็นจุดดึงดูดให้ผู้ใช้บริการเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ เห็นได้จากเมื่อช่วงเปิดตัวใหม่ ๆ แอพพลิเคชั่นแชตยอดนิยม คือ วอทส์ แอพ แต่เมื่อไลน์เปิดให้บริการที่เป็นมากกว่าการแชต ก็สามารถชนะขึ้นเป็นแอพพลิเคชั่นยอดนิยมอันดับ 1 ในหลาย ๆ ประเทศ การทำให้ไลน์ได้รับความนิยมต่อเนื่องก็ต้องมีฟีเจอร์และบริการใหม่ ๆ ออกมาอย่างต่อเนื่องเช่นกัน” นาย มัตสุดะ จุน กล่าว

ด้านนายทาเคชิ อิเดซาว่า ผู้อำนวยการ ไลน์ คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า ปัจจุบันมีองค์กรใหญ่มากกว่า 100 องค์กรทั่วโลกที่ทำออฟฟิศเชียลแอคเคานท์ ซึ่งก็จะมีคอนเทนต์ที่เหมาะกับท้องถิ่นนั้น ส่วนในไทยก็มีองค์กรใหญ่อย่างเมืองไทยประกันชีวิต และทรูมูฟ เอช ก็สามารถติดท็อป 5 ของออฟฟิศเชียลแอคเคานท์ทั่วโลก ถือเป็นการสื่อสารการตลาดที่มีประสิทธิภาพ ในส่วนของไทม์ไลน์ก็ได้รับความนิยมในญี่ปุ่นมียอดผู้ใช้ 29 ล้านคน โตขึ้น 220% มีหลายองค์กรสนใจนำไลน์ไปใช้ในการสื่อสารการตลาดและได้ผลตอบรับที่ดี

นอกจากนี้ผู้บริหารสูงสุดของไลน์ คือ นายโมริคาว่า อาคิระ ยังได้กล่าวถึงเรื่องการรักษาความปลอดภัยและการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล ถือเป็นเรื่องที่ให้ความสำคัญสูงสุด ที่ผ่านมายังไม่มีปัญหาอะไรเป็นไปตามที่มาตรฐานรักษาความปลอดภัยที่ได้มาตรฐานสากล

“ส่วนกรณีตำรวจไทยจะขอเข้ามาตรวจสอบข้อมูลส่วนบุคคลและการสนทนาของผู้ใช้งานไลน์ที่มีความเสี่ยงด้านความมั่นคงและการก่ออาชญากรรมนั้น ทางไลน์ยังไม่ได้รับการติดต่อขอรายละเอียดอย่างเป็นทางการจากทางตำรวจไทย นโยบายของไลน์ คือ การรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งานให้ปลอดภัยที่สุด ไม่เฉพาะในญี่ปุ่นรวมถึงในประเทศอื่นด้วย ซึ่งจะไม่มีการเปิดเผยข้อมูลของผู้ใช้งาน ยกเว้นแต่ทางตำรวจไทยประสานมายังตำรวจญี่ปุ่น เพื่อขอให้มีคำสั่งจากศาลญี่ปุ่น ทางบริษัทก็พร้อมจะปฏิบัติตาม อย่างไรก็ตามทางไลน์ไม่มีนโยบายเข้าไปแทรกแซงการใช้งานของผู้ใช้บริการ ซึ่งการติดต่อสื่อสารสนทนาเป็นระบบปิดจะไม่สามารถนำข้อมูลส่วนนี้มาเปิดเผยหรือให้บุคคลอื่นได้หากไม่มีคำสั่งจากศาล” นายโมริคาว่า กล่าว

ด้านนายจิน วู ลี ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายธุรกิจ ไลน์ พลัส คอร์ปอเรชั่น ซึ่งดูแลธุรกิจไลน์ ในประเทศไทย กล่าวว่า ไลน์จะให้ความสำคัญกับตลาดในไทย หลังจากตลาดไต้หวันเริ่มอิ่มตัวจากจำนวนผู้ใช้งานไลน์ 17 ล้านคน จากประชากรทั้งหมด 25 ล้านคน ในขณะที่ประเทศไทยมีผู้ใช้งานไลน์ 18 ล้านคน จากประชากรทั้งประเทศ 65 ล้านคน จึงยังมีโอกาสเติบโตอีกมาก โดยเฉพาะตอนนี้สมาร์ทโฟนกำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ รวมถึงมีการเปิดให้บริการ 3 จี แล้ว

นับเป็นการเติบโตแบบก้าวกระโดดจนติดท็อปเทน แอพพลิเคชั่น ที่มีผู้ใช้งานมากที่สุดในโลกไปแล้ว แต่ไลน์ประกาศจะไม่หยุดเพียงเท่านี้ พร้อมเดินหน้าต่อไป เพื่อเสนอบริการคอนเทนต์และฟีเจอร์ใหม่ ๆ ให้กับผู้ใช้งานทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง

ที่มา เดลินิวส์

Dew · โพสต์ 2013-8-26 20:03:09

thank you

'ไลน์' โตก้าวกระโดดชู 3 บริการใหม่ รองรับผู้ใช้งาน 300 ล้านคนในสิ้นปีนี้

สมาชิก kulasang.net เท่านั้นถึงจะสามารถเข้าเนื้อหาได้อย่างสมบูรณ์

ตอบกระทู้

ห้องเพลงโพสต์ใหม่ล่าสุด