ดู: 251|ตอบกลับ: 1

A:13 สไตล์การกิน ระบายอารมณ์

[คัดลอกลิงก์]
Dew
เช็คอินสะสม: 4495 วัน
เช็คอินต่อเนื่อง: 7 วัน

ความคืบหน้าการอัพเกรด: 46%

สมาชิก kulasang.net เท่านั้นถึงจะสามารถเข้าเนื้อหาได้อย่างสมบูรณ์

คุณจำเป็นต้อง เข้าสู่ระบบ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? สมัครสมาชิก

x
13สไตล์การกิน.jpg
ร่างกายมีผลต่ออารมณ์มาจาก 2 แหล่งของผลสะท้อนความรู้สึกคือ อาหารและสารเคมีในสมองและปัจจัยที่ควบคุมได้ง่ายคือ อาหาร ด้วยการ งดกินอาหารคาร์โบไฮเดรตที่มีค่าดัชนีน้ำตาลสูงอย่างไอศกรีม ข้าวเหนียว มันฝรั่งบด อาหารประเภททอด ขนมขบเคี้ยวต่างๆ น้ำอัดลม กระตุ้นให้มีการหลั่งฮอร์โมนอินซูลินที่นำกลูโคสเข้าสู่เซลล์ต่างๆ เพื่อเผาผลาญเป็นพลังงาน หลังจากกินไปได้ 2-4 ชั่วโมงจะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดลงอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ร่างกายอ่อนแรงอารมณ์เซื่องซึม ตาหนัก ง่วงนอน
กินอาหารที่มีค่าดัชนีน้ำตาลต่ำ เช่น ข้าวซ้อมมือ ข้าวกล้องขนมปังโฮลวีท ผักและผลไม้ที่มีเส้นใยมาก และมีรสไม่หวาน เป็นต้นเพราะร่างกายจะค่อยๆ ย่อยและดูดซึมช้าๆ ส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดคงที่ สม่ำเสมอและหลังกินอาหารได้
4-6 ชั่วโมง ร่างกายจะหลั่งสารฮอร์โมนบางชนิดเพื่อสลายไกลโคเจน ซึ่งเป็นคาร์โบไฮเดรตที่สะสมอยู่ในร่างกายและเพิ่มการสร้างกลูโคสจากแหล่งอาหารอื่น เช่น ไขมัน
เลือกกินเฉพาะแป้งที่ไม่หวาน ไม่ได้เหมารวมทุกหมวดเพราะขนมปังและข้าวทุกชนิด คือแหล่งคาร์โบไฮเดรต ซึ่งมีส่วนในการกระตุ้นให้สมองหลั่งสารเซโรโทนิน(
Serotonin)ซึ่งช่วยให้เกิดความสงบ งานวิจัยจากสถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเสตต์สหรัฐอเมริกา แนะนำให้กินขนมปังเพื่อต่อต้านอาการซึมเศร้า
ปรับเปลี่ยนเพื่ออารมณ์ดี การปรับเปลี่ยนประเภทของอาหารเพียง เล็กน้อยก็สามารถส่งผลให้อารมณ์ดีขึ้นได้อย่างไม่น่าเชื่อควรกินอาหารให้ครบมื้อ แต่ถ้าไม่มีเวลากินอาหารเป็นมื้อ แบบกิจจะลักษณะควรเลือกของว่างเล็กๆ น้อยๆ เช่น ขนมปังโฮลวีทสักแผ่น หรือขนมปังกรอบธัญพืชสัก
2-3 แผ่นอย่าปล่อยให้ท้องว่างเด็ดขาด หรือว่าจะแบ่งมื้ออาหารออกเป็นมื้อเล็กๆ แต่กินบ่อยๆ เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำตาลในเลือดตก
กินปลาแซลมอนและแมคคาเรล ปลา
2 ประเภทนี้มีโอเมก้า 3 ซึ่งยืนยันด้วยผลวิจัยว่าส่งผลต่ออารมณ์ ช่วยป้องกันโรคหัวใจและมะเร็ง ที่ดีไปกว่านั้นแซลมอนยังเต็มไปด้วยเซเลเนียมที่เป็นสารสำคัญในการต่อต้านอนุมูลอิสระด้วย
ปรุงอาหารด้วยน้ำมันคาโนลาออยล์ (Canola Oil)
จากดอกคาโนลาซึ่งกำลังได้รับความนิยมแทนน้ำมันพืชทั่วไปเนื่องจากเต็มไปด้วยวิตามินอี ซึ่งมีผลต่อระดับอารมณ์ แต่ควรกินได้ไม่เกินวันละ 6ช้อนชา หรือ 24 กรัมโดยใช้ทอดปลาแซลมอนหรือทำอาหารสุขภาพ
กินผักโขม ถั่วสด และถั่ว Chickpeas
ที่มีแต่โปรตีนไขมันต่ำอยู่สูง ในผักใบสีเขียวเข้มมีโฟเลตสูงมีส่วนสำคัญในการสร้างเซโรโทนิน ซึ่งช่วยให้อารมณ์อยู่ในระดับปกติ นอกจากนั้นการกินถั่วยังได้รับวิตามินซีและไฟเบอร์ด้วยการลองผสมถั่ว หรือเพิ่มผักใบเขียวลงในทูน่าสลัด นับเป็นไอเดียเริดที่น่าทำมาก
กินพริกรสเผ็ด ในพริกมี
‘สารแคปไซซิน' ส่งสัญญาณหลอกให้สมองหลั่งสารแห่งความสุข เอนโดรฟิน แต่ควรระวังหากกินมากเกินไปอาจทำท้องไส้ปั่นป่วน
กินปวยเล้ง ผักอารมณ์ดีที่อุดมด้วย
‘กรดโฟลิก'(Folic acid) ที่ช่วยสร้างเซลล์ใหม่และช่วยให้เซลล์ใหม่แข็งแรงสมบูรณ์การขาดนำไปสู่การลดการหลั่งของฮอร์โมนเซโรโทนิน โดยตรง ซึ่งก่อให้เกิดภาวะซึมเศร้าการกินปวยเล้งสม่ำเสมอยังทำให้หลับง่าย หลับสนิทดีด้วย
กินกล้วยหอม กระตุ้นการสร้างสาร
‘ซีโรโทนิน'และอุดมไปด้วย ‘ทริปโทโฟน' ช่วยลดอารมณ์ซึมเศร้า คลายเครียด และไม่อ้วน
กินถั่วเหลือง ที่อุดมด้วยสารซีโรโทนิน เพิ่มความตื่นตัวกระฉับกระเฉง และ
‘โดไทโรซิน' เพิ่มสมาธิในการทำกิจกรรมต่างๆ
กินเชอร์รี่เป็นของหวาน แพทย์ตะวันตกเรียกเชอร์รี่ว่าเป็น
‘แอสไพรินธรรมชาติ'เนื่องจากผลไม้ชนิดนี้มีสารที่ชื่อว่าแอนโธไซยานิน Anthocyanin) ซึ่ง เป็นเม็ดสีในเชอร์รี่ ทำให้เชอร์รี่มีสีสันสวยสดใส และสรรพคุณสำคัญคือ ทำให้คนกินมีความสุข งานวิจัยมหาวิทยาลัยมิชิแกน สหรัฐอเมริกา ชี้ว่าการกินเชอร์รี่20 ผล ช่วยลดอาการซึมเศร้าได้ดีกว่าการกินยา
กินและปรุงอาหารด้วยกระเทียม ที่อุดมด้วยสารเซเลเนียม(
Selenium)สารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยทำให้อารมณ์ดีขึ้น นักวิจัยเยอรมันแนะว่าการกินกระเทียมวันละ 2 กลีบน่าจะเหมาะสม นอกจากนี้กระเทียมยังมีสรรพคุณช่วยลดระดับไขมันในเลือดและรักษาโรคความดันโลหิตสูง

ขอขอบคุณ ที่นี่, วิชาการ.คอม
เช็คอินสะสม: 1685 วัน
เช็คอินต่อเนื่อง: 1 วัน

ความคืบหน้าการอัพเกรด: 22%

โพสต์ 2013-10-18 21:34:02 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุณมากครับ

ตอบกระทู้

สำหรับคนที่ขี้เกียจพิมพ์
คุณจำเป็นต้องเข้าสู่ระบบก่อนที่จะตอบกลับ เข้าสู่ระบบ | สมัครสมาชิก

รายละเอียดเครดิต

TOP