ดู: 1024|ตอบกลับ: 0

A: ว่ายน้ำลดน้ำหนักได้มากแค่ไหน มาเช็กกันสักที

[คัดลอกลิงก์]
Dew
เช็คอินสะสม: 4489 วัน
เช็คอินต่อเนื่อง: 1 วัน

ความคืบหน้าการอัพเกรด: 46%

สมาชิก kulasang.net เท่านั้นถึงจะสามารถเข้าเนื้อหาได้อย่างสมบูรณ์

คุณจำเป็นต้อง เข้าสู่ระบบ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? สมัครสมาชิก

x
ว่ายน้ำลดน้ำหนักได้มากแค่ไหนมาเช็กกันสักที แต่ละท่าว่ายน้ำช่วยเบิร์นแคลอรีได้ขนาดไหนกันนะ

        การ ว่ายน้ำถือเป็นการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอที่มีประสิทธิภาพสูง อีกทั้งยังเป็นการออกกำลังกายที่เสี่ยงต่อการบาดเจ็บน้อยเมื่อเทียบกับการออกกำลังกายชนิดอื่น ๆ จึงทำให้การว่ายน้ำกลายเป็นหนึ่งในวิธีออกกำลังกายลดน้ำหนักที่ได้รับความนิยม แต่เคยสงสัยกันบ้างหรือไม่ว่า การว่ายน้ำในแต่ละครั้งจะช่วยเผาผลาญแคลอรีได้มากขนาดไหนถ้าอย่างนั้นอย่ามัวแต่รอช้า ลองมาดูกันเลยดีกว่าว่าท่าว่ายน้ำแต่ละท่าจะเผาผลาญแคลอรีได้มากแค่ไหนกัน

        การว่ายน้ำถือว่าเป็นการออกกำลังกายที่เผาผลาญแคลอรีได้ไม่น้อยเลยทีเดียว ซึ่งปริมาณแคลอรีที่ถูกเผาผลาญไปในแต่ละคนจะมากหรือน้อยนั้นก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลาย ๆ อย่างเช่น ความหนักหน่วงในการออกกำลังกาย น้ำหนักตัว ท่าว่ายน้ำความเร็วในการว่ายน้ำ สมรรถภาพทางร่างกาย หรือแม้แต่ระยะเวลาในการว่ายน้ำ

        โดยสมาคมหัวใจอเมริกัน(American Heart Association - AHA) ได้เปิดเผยว่าเมื่อเปรียบเทียบในเรื่องของน้ำหนักตัวและความเร็วในการว่ายน้ำแล้วผู้ที่มีน้ำหนัก 150 ปอนด์ (ประมาณ 68 กิโลกรัม) และว่ายน้ำที่ความเร็วประมาณ 23 เมตรต่อนาทีจะสามารถเผาผลาญแคลอรีได้ 225 กิโลแคลอรีต่อชั่วโมงและถ้าว่ายน้ำด้วยความเร็วประมาณ 46 เมตรต่อนาทีก็จะเผาผลาญแคลอรีได้500 แคลอรีต่อชั่วโมง ทั้งนี้หากน้ำหนักตัวอยู่ที่ 90กิโลกรัม และว่ายน้ำด้วยความเร็วประมาณ 46 เมตรต่อนาทีก็จะทำให้เผาผลาญแคลอรีได้ถึง 650 กิโลแคลอรี

        ส่วนในเรื่องของท่าว่ายน้ำก็มีส่วนสำคัญในการเผาผลาญแคลอรีด้วยเช่นกัน ซึ่งสมาคมว่ายน้ำสมัครเล่นแห่งประเทศสหราชอาณาจักร(The Amateur Swimming Association - ASA) ก็เปิดเผยข้อมูลว่าการว่ายน้ำแต่ละท่าในระยะเวลา30 นาที สามารถเผาผลาญแคลอรีได้ดังนี้
swim.jpg
ท่าผีเสื้อ (Butterfly Stroke) สามารถเผาผลาญแคลอรีได้404 กิโลแคลอรี เทียบเท่ากับการวิ่งเป็นเวลาประมาณ 30นาที

ท่ากรรเชียง (Back Stroke) สามารถเผาผลาญแคลอรีได้257 กิโลแคลอรีเทียบเท่ากับการเดินออกกำลังกายเป็นเวลาประมาณ 100 นาที

ท่ากบ (BreastStroke) สามารถเผาผลาญแคลอรีได้ 367 กิโลแคลอรี เทียบเท่ากับการขี่จักรยานประมาณ 60 นาที

ท่าฟรีสไตล์ (Front Crawl) หากว่ายแบบช้า ๆจะสามารถเผาผลาญแคลอรีได้ 257 กิโลแคลอรี เทียบเท่ากับการเดินออกกำลังกายเป็นเวลาประมาณ100 นาที แต่ถ้าว่ายแบบเร็ว ๆ จะสามารถเผาผลาญได้ 404กิโลแคลอรี เทียบเท่ากับการวิ่งเป็นเวลาประมาณ 30 นาที

        นอกจากนี้การว่ายน้ำแบบทั่วไปโดยไม่ใช้ท่าว่ายน้ำ หรือการทำกิจกรรมเบาๆ ในน้ำ อาทิ การตีขา หากทำติดต่อกันถึง 30 นาทีก็จะสามารถเผาผลาญแคลอรีได้ถึง220 กิโลแคลอรีเช่นกัน
ว่ายน้ำอย่างไรให้เบิร์นได้มากขึ้น ?
        ได้เห็นกันไปแล้วว่าการว่ายน้ำสามารถเบิร์นแคลอรีได้มากขนาดไหนแต่ถ้าอยากให้ร่างกายเบิร์นแคลอรีได้มากขึ้นก็มีวิธีนะจะบอกให้ แค่เพียงทำสิ่งเหล่านี้เพิ่มเติมลงไปในการว่ายน้ำรับรองเลยว่าแคลอรีในร่างกายถูกเผาผลาญได้เยอะสมใจแน่นอน
ff.jpg
1. ว่ายอย่างต่อเนื่อง การออกกำลังกายด้วยการว่ายน้ำเป็นการออกกำลังกายที่เหนื่อยช้ากว่าวิธีออกกำลังกายแบบอื่นๆ ดังนั้นถ้าอยากเผาผลาญแคลอรีได้มากขึ้นก็แค่ว่ายน้ำอย่างต่อเนื่องและหยุดพักแค่ระยะสั้นๆ เพียง 10 วินาที ก่อนเริ่มว่ายอีกครั้ง จะทำระบบเผาผลาญทำงานได้อย่างต่อเนื่องค่ะ

2. ว่ายให้เร็วขึ้น ความเร็วของการว่ายน้ำสามารถเพิ่มการเผาผลาญให้ร่างกายได้ด้วยแต่ก็ไม่ต้องถึงขนาดเร่งความเร็วในการว่ายตลอดเวลานะคะ เพราะการว่ายน้ำเร็ว ๆติดต่อกันนาน ๆ อาจทำให้เกิดอาการบาดเจ็บ เช่น เกิดตะคริวที่ขาได้ ซึ่งถือว่าอันตรายเป็นอย่างมากที่ควรทำก็แค่เพียงเพิ่มความเร็วในการว่ายน้ำเป็นระยะ ๆ ช้า 1 รอบ เร็ว 1 รอบ สลับกันไป แล้วค่อย ๆ เพิ่มเป็น ช้า 2รอบ เร็ว 2 รอบ แบบนี้จะช่วยกระตุ้นระบบเผาผลาญได้ดีเลย

3. สวมใส่อุปกรณ์เพิ่ม แม้ว่าการว่ายน้ำจะไม่ต้องใช้อุปกรณ์อะไร แต่ก็ยังมีอุปกรณ์เสริมสำหรับการว่ายน้ำอีกหลายอย่างที่จะช่วยให้คุณออกกำลังกายเผาผลาญแคลอรีได้มากขึ้น อาทิ มือพายสำหรับว่ายน้ำ, ตีนกบหรือแม้แต่หน้ากากสน็อกเกิล เพราะอุปกรณ์เหล่านี้จะช่วยเพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจและเร่งความเร็วในการว่ายน้ำได้มากขึ้น ส่งผลให้ร่างกายเผาผลาญได้มากขึ้นนั่นเอง

4. ว่ายหลาย ๆ ท่าผสมกัน วิธีนี้เรียกว่า IM set (individual medley) ซึ่งเป็นการว่ายน้ำแบบหลายท่าผลัดกันในแต่ละเซตตัวอย่างเช่น ว่ายน้ำ 100 เมตร ด้วยท่าว่ายน้ำ 4 ท่า ท่าละ 25 เมตร หรือว่ายน้ำ 200 เมตร ด้วยท่าว่ายน้ำ 4 ท่า ท่าละ 50 เมตร โดยการว่ายจะเริ่มต้นท่าผีเสื้อ ท่ากรรเชียง ท่ากบ และจบด้วยท่าว่ายฟรีสไตล์โดยอาจจะจำกัดหรือไม่จำกัดเวลาก็ได้ วิธีนี้จะเร่งให้ร่างกายเผาผลาญแคลอรีได้มากขึ้นกว่าปกติส่งผลให้เบิร์นได้มากขึ้นนั่นเอง

5. ควบคุมอัตราการเต้นของหัวใจ อัตราการเต้นของหัวใจมีความเชื่อมโยงกับระดับการเผาผลาญของร่างกาย ดังนั้นหากอยากให้ร่างกายสามารถเผาผลาญแคลอรีได้มากขึ้นก็ควรที่จะควบคุมอัตราการเต้นของหัวใจให้อยู่ที่80% ของอัตราการเต้นของหัวใจสูงสุดให้ได้ตลอดการออกกำลังกายของคุณเพราะในระดับนั้นร่างกายจะทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพโดยไม่ทำให้เหนื่อยจนเกินไปและวิธีการควบคุมอัตราการเต้นของหัวใจก็คือ หลังจากที่คุณว่ายน้ำไปแล้วทุก 10-15รอบ คุณควรวัดอัตราการเต้นของหัวใจด้วยตนเอง ด้วยวิธีดังนี้
วิธีวัดอัตราการเต้นของหัวใจหลังจากการออกกำลังกาย
1. ใช้นิ้วชี้และนิ้วกลางแตะที่บริเวณข้อมือใต้นิ้วโป้งคุณจะรู้สึกถึงการเต้นของชีพจร
2. จับเวลา 10 วินาที นับว่าชีพจรเต้นกี่ครั้งแล้วนำไปคูณด้วย 6 จะเป็นอัตราการเต้นของหัวใจต่อนาที
3. หากอยากทราบว่าตัวเรามีอัตราการเต้นของหัวใจสูงสุดเท่าใด ให้นำ 220ซึ่งเป็นอัตราการเต้นของหัวใจสูงสุดที่เป็นมาตรฐาน ลบกับอายุจริง จะได้อัตราการเต้นของหัวใจสูงสุดของเราเองตัวอย่างเช่น อายุ 25 ปี อัตราการเต้นของหัวใจสูงสุดคือ 220-25= 195 ครั้งต่อนาที
4. หาอัตราการเต้นของหัวใจที่ 80% ของอัตราสูงสุดด้วยการนำอัตราการเต้นของหัวใจสูงสุดของตัวเองมาคูณด้วย 0.8 ก็จะได้อัตราการเต้นของหัวใจที่ระดับ80% ตัวอย่างเช่น 195 x 0.8 =156 ครั้งต่อนาที
5. นำอัตราการเต้นของหัวใจที่วัดได้ในตอนแรกมาเปรียบเทียบ หากมากกว่าที่คำนวณได้ควรหยุดพักหรือถือหากมากกว่าอัตราสูงสุดไม่ควรฝืนออกกำลังกายต่อเพราะอาจจะทำให้เกิด อาการช็อกได้ค่ะ

        ทราบกันแบบนี้แล้วใครที่ชอบว่ายน้ำออกกำลังกายก็คงจะยิ่งรักการว่ายน้ำมากขึ้นไปอีกใช่ไหมล่ะ คะส่วนใครที่ยังลังเลว่าจะเริ่มว่ายน้ำดีหรือเปล่าก็คงพอจะตัดสินใจได้แล้ว แต่ก็อย่าหักโหมออกกำลังกายกันจนมากเกินไปนะคะเพราะผลที่จะได้คงไม่ดีแน่เมื่อเทียบกับการออกกำลังกายแต่พอดีค่ะ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก ไลฟ์สตรองดอทคอม, เฮลฟ์ไลน์ดอทคอม,สวิมมิ่งดอทคอม, เฮลฟ์ดอทคอม, มายสวิมโปร ดอทคอม และกระปุก

ตอบกระทู้

สำหรับคนที่ขี้เกียจพิมพ์
คุณจำเป็นต้องเข้าสู่ระบบก่อนที่จะตอบกลับ เข้าสู่ระบบ | สมัครสมาชิก

รายละเอียดเครดิต

TOP