ดู: 928|ตอบกลับ: 2

เริมที่ปาก

[คัดลอกลิงก์]

ยังไม่ได้เช็คอิน

ความคืบหน้าการอัพเกรด: 53%

สมาชิก kulasang.net เท่านั้นถึงจะสามารถเข้าเนื้อหาได้อย่างสมบูรณ์

คุณจำเป็นต้อง เข้าสู่ระบบ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? สมัครสมาชิก

x
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Nuttakorn เมื่อ 2020-12-25 14:52

เริมที่ปาก.png


"เริมเป็นโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัสชนิดหนึ่งโดยจะมีแผลอักเสบเป็นตุ่มใสเล็กๆ รู้สึกปวดแสบปวดร้อน สามารถติดต่อผ่านทางน้ำลาย สารคัดหลั่ง สัมผัสแผลผู้ป่วย เพศสัมพันธ์ หรือใช้สิ่งของร่วมกันกับผู้ป่วย"
เริมคือ ?
เริมคือเชื้อไวรัสที่ชื่อว่า Herpes simplex virus หรือเราจะเรียกสั้นๆ ว่า HSV จะมีอยู่ด้วยกัน 2 ชนิด
คือ Herpes simplex virus 1 (HSV 1) ทำให้โรค เริมที่ปาก และ Herpes simplex virus (HSV 2) ทำให้เกิดโรคเริมที่อวัยวะเพศ หากเป็น โรคนี้แล้วจะไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ ถึงแผลจะหายดีแล้วก็ตามไวรัสก็จะฝังอยู่ที่ปมประสาท เมื่อร่างกายอ่อนแอ โรคนี้ก็จะกลับมาเป็นอีกครั้ง



เริมที่ปากติดต่อกันอย่างไร ?
เริมสามารถติดต่อได้ผ่านการสัมผัสเชื้อโดยตรง จากแผล จากตุ่มพอง จากน้ำลาย และการมีเพศสัมพันธ์ นอกจากนั้นการใช้ของอื่นๆ เช่น แก้วน้ำ เสื้อผ้า ช้อนส้อม ร่วมกับผู้ป่วยที่เป็นโรคเริม ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้ติดเชื้อได้เช่นกัน


อาการของเริมที่ปาก
  • เมื่อเชื้อเข้าสู่ร่างกาย เชื้อไวรัสจะใช้เวลา 2-12 วัน ในการฟักตัว
  • เป็นแผลบวมแดง มีตุ่มพองมีน้ำใส ๆ และรู้สึกคัน ขึ้นบริเวณริมฝีปาก
  • มีไข้ ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย ปวดเมื่อยตามตัว
  • มีอาการปวดหรืออักเสบ
  • แผลจะแห้งตกสะเก็ดและหายไปเอง 7 -10 วัน
สาเหตุที่ทำให้เริมกลับมาเป็นซ้ำ ๆ
เมื่อ ร่างกายอ่อนแอ ภูมิคุ้มกันต่ำ เครียด นอนดึก การพักผ่อนไม่เพียงพอ โรคเริมก็จะกลับมากำเริบอีกเรื่อยๆ หากรักษาสุขภาพให้แข็งแรงโรคนี้ก็จะไม่กลับมาเป็นบ่อย ซึ่งโรคเริมมักจะเป็นอยู่ประมาณ7-10 วัน แล้วแผลก็ตกสะเก็ดแห้งหลุดไปเอง

การรักษาเริมที่ปาก.png


การรักษาเริมที่ปาก
  • หมั่นรักษาความสะอาดบริเวณที่เป็นแผล
  • ทายาเป็นประจำ จะทำให้แผลแห้งและหายเร็ว
  • ยาต้านไวรัส เช่น อะไซโคลเวียร์ แฟมซิโคลเวียร์ และวาลาซิโคลเวียร์ มีทั้งชนิดกินและฉีด
**การใช้ยาในการรักษาเริมที่ปาก ควรเป็นไปตามที่แพทย์กำหนดและควรรับคำปรึกษาจากแพทย์**
การป้องกันเริมที่ปาก
  • ใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งเมื่อมีเพศสัมพันธ์
  • ไม่เปลี่ยนคู่นอนบ่อย เพราะมีโอกาสติดเริมและโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่นๆ
  • ทำร่างกายให้แข็งแรง ไม่เครียด หากภูมิต้านทานร่างกายดี โอกาสติดเริมที่ปากก็จะลดลง
  • หากมีแผลเริมหรือเคยมีเชื้อเริม ต้องระวังการสัมผัสเพราะอาจแพร่เชื้อไปติดผู้อื่นได้
  • Oralsexทุกครั้งควรใช้ถุงยางอนามัย
  • งานวิจัยหลายที่ยืนยันว่า การขริบหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศชายช่วยลดการติดเชื้อเริมที่อวัยวะเพศได้
สรุป
ในปัจจุบันยังไม่มียารักษาโรคเริมให้หายขาด แต่เราสามารถดูแลตัวเองให้สุขภาพแข็งแรงอยู่เสมอ ออกกำลังกายเป็นประจำ พักผ่อนให้เพียงพอ หลีกเลี่ยงปัจจัยอื่นที่จะทำให้ภูมิคุ้มกันในร่างกายลดลง ฉะนั้นทางที่ดีที่สุดก็ควรที่จะรักษาสุขภาพของเราให้แข็งแรงอยู่เสมอ เพราะเมื่อร่างกายของเราแข็งแรง ไม่ว่าจะเป็นโรคเริม หรือโรคอะไรก็ไม่สามารถมาทำร้ายเราได้แน่นอน


Dew
เช็คอินสะสม: 4472 วัน
เช็คอินต่อเนื่อง: 26 วัน

ความคืบหน้าการอัพเกรด: 46%

โพสต์ 2021-1-18 10:39:44 | ดูโพสต์ทั้งหมด
Thank you very much.
tar
เช็คอินสะสม: 97 วัน
เช็คอินต่อเนื่อง: 1 วัน

ความคืบหน้าการอัพเกรด: 6%

โพสต์ 2021-9-21 20:54:31 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุณครับ
เช็คอินสะสม: 104 วัน
เช็คอินต่อเนื่อง: 1 วัน

ความคืบหน้าการอัพเกรด: 75%

โพสต์ 2022-4-10 12:41:16 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุณ

ตอบกระทู้

สำหรับคนที่ขี้เกียจพิมพ์
คุณจำเป็นต้องเข้าสู่ระบบก่อนที่จะตอบกลับ เข้าสู่ระบบ | สมัครสมาชิก

รายละเอียดเครดิต

TOP