ดู: 35|ตอบกลับ: 0

5 เรื่องที่ควรเข้าใจเกี่ยวกับกรมธรรม์ประกันสุขภาพก่อนเลือกซื้อ

[คัดลอกลิงก์]
เช็คอินสะสม: 79 วัน
เช็คอินต่อเนื่อง: 2 วัน

ความคืบหน้าการอัพเกรด: 10%

สมาชิก kulasang.net เท่านั้นถึงจะสามารถเข้าเนื้อหาได้อย่างสมบูรณ์

คุณจำเป็นต้อง เข้าสู่ระบบ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? สมัครสมาชิก

x
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย melonnergia เมื่อ 2024-1-19 16:52

ประกันสุขภาพ กรมธรรม์.png

โดยทั่วไปเเล้วเวลาที่เราจะมองหาความคุ้มครองของประกันสุขภาพสักฉบับนั้น ไม่ว่าเราจะไปเลือกประกันที่ไหนก็ตาม
ทุกเเห่งล้วนต้องมี กรมธรรม์ ( policy ) ซึ่งเป็นเอกสารสำคัญสำหรับการถือครองกรมธรรม์ของผู้ซื้อประกัน โดยจะระบุถึง
รายละเอียดข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับประกันสุขภาพฉบับนั้นๆ เช่น ข้อมูลของผู้ทำประกัน สิทธิความคุ้มครองสุขภาพเเละผลประโยชน์
ที่ได้รับ เงื่อนไขของประกันสุขภาพที่คุ้มครองเเละไม่คุ้มครอง ช่วงระยะเวลารอคอย ตารางจ่ายเบี้ยประกันสุขภาพ เเละการต่อ
ประกันสุขภาพตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ ซึ่งทั้งหมดนี้ผู้ที่ซื้อประกันสุขภาพ จำเป็นต้องทำความเข้าใจตั้งเเต่ต้นก่อนเลย เพื่อจะได้
เลือกประกันสุขภาพที่ใช่สำหรับเรามากที่สุด เพราะหากเราไม่เข้าใจกรมธรรม์หรือเข้าใจผิดก็ตาม อาจเสียผลประโยชน์ที่ได้รับก็เป็นได้

อย่างไรก็ตาม ปัญหาความไม่เข้าใจกรมธรรม์ประกันสุขภาพก่อนซื้อนั้นก็ยังมีอยู่มาก เเละนี่ก็คือ 5 เรื่องที่ผู้ซื้อประกัน
เจอปัญหาบ่อยครั้ง มีดังต่อไปนี้

1.ช่วงระยะเวลารอคอย

เพราะความคุ้มครองของ ประกันสุขภาพ ทุกฉบับเเละทุกกรมธรรม์ ล้วนต้องระบุถึงเงื่อนไข '' ช่วงระยะเวลารอคอย '' เอาไว้ข้างใน
กรมธรรม์ประกันที่เราซื้ออยู่เเล้ว ช่วงระยะเวลารอคอย คือช่วงเวลาที่ประกันสุขภาพจะยังไม่มีผลคุ้มครองโดยทันที ติดช่วงเวลาที่
เราต้องรอให้ผ่านพ้นช่วงนี้ไปก่อนถึงประกันจะมีผลคุ้มครองให้กับเรา ใช้สิทธิเคลมประกันได้ โดยส่วนใหญ่เเล้วบริษัทประกันจะ
กำหนดเงื่อนไขช่วงระยะเวลารอคอยเอาไว้หลายช่วงเวลาเช่น 30 วัน , 60 วัน , 120 วัน , 180 วัน ยิ่งเป็นในโรคร้ายแรงที่ค่ารักษาสูง
ช่วงระยะเวลารอคอยเราก็ต้องรอนานไปด้วย เพราะเหตุนี้ผู้ซื้อประกันจึงควรเข้าใจเรื่องนี้ก่อนซื้อประกันด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้พลาด
ในช่วงที่เราจะเคลมประกันสุขภาพได้ถูกต้องตามช่วงเวลานั่นเอง

2.วงเงินคุ้มครองค่าห้องต่อวันของผู้ป่วยในที่ประกันสุขภาพระบุไว้

ค่าห้องโรงพยาบาล เป็นหนึ่งในค่าใช้จ่ายที่เวลาเราเข้าพักรักษาตัวในโรงพยาบาลจะต้องเสียเงินด้วย ไม่ใช่เเค่เฉพาะค่ารักษา
เพียงอย่างเดียว โดยเเต่ละโรงพยาบาลก็มีค่าห้องที่เเตกต่างกันด้วย บางโรงพยาบาลค่าห้องถูก แต่บางโรงพยาบาลค่าห้องแพงมาก
ซึ่งประกันสุขภาพแต่ละฉบับก็จะมีการระบุถึงความคุ้มครองวงเงินค่าห้องเอาไว้เป็นจำนวนเงินชัดเจน ถ้าหากเราเข้าห้องพักรักษา
ที่ค่าห้องแพงกว่าวงเงินคุ้มครองค่าห้องที่ระบุไว้ ค่าใช้จ่ายส่วนต่างที่เหลือผู้ซื้อประกันต้องจ่ายเงินเพิ่มด้วย

อ่านบทความเพิ่มเติมคลิก >>  กรมธรรม์ประกันสุขภาพ


3.เงื่อนไขการสำรองจ่ายก่อน

เรื่องนี้เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ ในกรณีที่เราป่วยหนักในช่วงเวลาที่เพิ่งผ่านพ้นระยะเวลารอคอยของประกันสุขภาพไปไม่นาน เช่น ผ่านไป 1 ปี
เเล้วเราเกิดป่วยหนักเป็นโรคร้ายแรงซึ่งเราไปเคลมประกันสุขภาพ เช่น โรคมะเร็ง , โรคหัวใจ ,โรคเนื้องอกในสมอง ซึ่งส่งผลให้บริษัทประกัน
มีสิทธิที่จะกำหนดให้เราต้องสำรองจ่ายเองไปก่อน เเล้วค่อยมาเคลมประกันในภายหลัง เพราะบริษัทจำเป็นต้องตรวจสอบข้อมูลของผู้ทำประกัน
ย้อนหลังก่อนทำการเคลมประกันได้ ปัญหานี้ถือเป็นเรื่องใหญ่ที่เกิดขึ้นต่อผู้ซื้อประกันสุขภาพหลายคนเจอปัญหานี้ก็รู้สึกเเย่ แต่เมื่อพิจารณา
ข้อเท็จจริงจะพบว่า เงื่อนไขการสำรองจ่ายก่อนมักจะกำหนดในเคสที่ประกันสุขภาพที่ทำนั้น อายุกรมธรรม์ยังน้อยเกินไป หรือ อายุกรมธรรม์ไม่ถึง 2 ปี
ซึ่งบริษัทประกันก็จำเป็นต้องเช็คข้อมูลประวัติสุขภาพย้อนหลังของผู้ซื้อประกันก่อน ใช้ระยะเวลาไม่เกิน 90 วัน ถ้าไม่มีปัญหาใดๆ บริษัทประกันก็จะ
อนุมัติการเคลมประกันสุขภาพให้ในที่สุด

** คำแนะนำในเรื่องนี้ ผู้ซื้อประกันสุขภาพควรเข้าใจในเงื่อนไขสำรองจ่ายก่อนซื้อประกัน โดยเเนะนำว่าช่วงแรกๆที่กรมธรรม์อายุยังน้อยอยู่
อายุประกันยังไม่ถึง 2 ปี อย่าเพิ่งเคลมประกันสุขภาพบ่อยนัก ป่วยเล็กน้อยก็ไม่ควรเคลมประกันสุขภาพช่วงนี้มาก เพื่อเก็บสิทธิไว้ใช้ประกันสุขภาพ
รอเคลมประกันช่วงที่ป่วยหนักจากโรคร้ายแรงในอนาคตจะดีกว่า

4.ไม่เข้าใจเรื่องโรงพยาบาลคู่สัญญา

เนื่องจากบริษัทประกันแต่ละแห่งจะมีการระบุถึง โรงพยาบาลคู่สัญญาของบริษัทประกันที่แตกต่างกันไป ในกรณีที่เราไปเข้ารับการรักษา
ในโรงพยาบาลที่ไม่ใช่คู่สัญญา ส่งผลเสียเราต้องจ่ายเงินค่ารักษาเองไปก่อน เเล้วค่อยมาเคลมประกันในภายหลัง แนะนำว่าให้ผู้ซื้อประกัน
ควรเช็คข้อมูลโรงพยาบาลคู่สัญญาก่อนซื้อประกันเลย ดูตรงที่โรงพยาบาลคู่สัญญาที่แฟลกเคลมได้ จะได้ตัดสินใจซื้อประกันได้อย่างหมดห่วง

5.เลือกการจ่ายเบี้ยประกันสุขภาพไม่เกินกำลังซื้อของตัวเอง
หลายคนพลาดพลั้งต่อปัญหาเบี้ยประกันสุขภาพเเพง เพราะซื้อประกันสุขภาพที่เเพงเกินกำลังซื้อของเราไปมากโข แนะนำให้ซื้อประกันสุขภาพ
ไม่ควรเกิน 15% ของรายได้เราในเเต่ละเดือน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาจ่ายเบี้ยไม่ไหว ส่วนจะเลือกจ่ายเบี้ยประกันแบบรายปี หรือจ่ายเบี้ย
ประกันแบบรายเดือนก็ตาม เราควรคิดให้รอบคอบเเละวางแผนการเงินล่วงหน้าเอาไว้ให้ดีด้วยนะ

ทั้งหมดนี้เป็นคำแนะนำดีๆ ที่ช่วยให้ผู้ซื้อประกันสุขภาพฉบับแรกสามารถเข้าใจก่อนซื้อประกัน เพื่อจะได้ตัดสินใจซื้อประกันให้เหมาะสมกับเรา
ส่งเบี้ยประกันสุขภาพไหว ใช้สิทธิเคลมประกันได้อย่างถูกช่วงเวลาตามเงื่อนไขกรมธรรม์นั่นเอง '' ประกันสวัสดีดอทคอม '' เรามีครบทั้ง
ประกันสุขภาพหลากหลายกรมธรรม์ให้เพื่อนๆได้เลือกชม สามารถเปรียบเทียบประกันสุขภาพแต่ละแห่งได้ด้วย พร้อมรับสิทธิพิเศษเมื่อซื้อประกัน
สุขภาพผ่านสวัสดีดอทคอม สามารถเข้าไปชมได้ที่หน้าเว็บไซต์ได้เลยครับ

ทำเรื่องประกันสุขภาพให้เป็นเรื่องง่ายๆ คลิก ประกันสวัสดีดอทคอม ประกันสุขภาพออนไลน์ คุ้มครองครบ จบที่เดียว สวัสดีดอทคอม โทร 02 098 599


article_health_compare_insurance_pic01_cc31cd1a68.jpg

ตอบกระทู้

สำหรับคนที่ขี้เกียจพิมพ์
คุณจำเป็นต้องเข้าสู่ระบบก่อนที่จะตอบกลับ เข้าสู่ระบบ | สมัครสมาชิก

รายละเอียดเครดิต

TOP