ดู: 38|ตอบกลับ: 0

เรื่องควรรู้เกี่ยวกับประกันสุขภาพก่อนซื้อ เงื่อนไขประกันสุขภาพที่เราควรเข้าใจให้

[คัดลอกลิงก์]
เช็คอินสะสม: 81 วัน
เช็คอินต่อเนื่อง: 1 วัน

ความคืบหน้าการอัพเกรด: 20%

สมาชิก kulasang.net เท่านั้นถึงจะสามารถเข้าเนื้อหาได้อย่างสมบูรณ์

คุณจำเป็นต้อง เข้าสู่ระบบ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? สมัครสมาชิก

x
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย melonnergia เมื่อ 2024-1-23 17:42

cpmpare_health_insurance_sawaddee_f0392596fa.jpg

เงื่อนไขประกันสุขภาพแต่ละฉบับ ผู้ซื้อควรเข้าใจก่อนเลือกซื้อ

ในปัจจุบันนี้เวลาที่เราจะมองหาความคุ้มครองของประกันสุขภาพสักฉบับนั้นไม่ว่าเราจะไปเลือกประกันของที่ไหนก็ตามแต่
ประกันทุกเเห่งล้วนต้องมี กรมธรรม์ ( policy) ซึ่งเป็นเอกสารสำคัญสำหรับการถือครองกรมธรรม์ของผู้ซื้อประกันโดยจะระบุถึง
รายละเอียดข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับประกันสุขภาพฉบับนั้นๆ เช่นข้อมูลของผู้ทำประกัน สิทธิความคุ้มครองสุขภาพเเละผลประโยชน์
ที่ได้รับ เงื่อนไขของประกันสุขภาพที่คุ้มครองเเละไม่คุ้มครองช่วงระยะเวลารอคอย ตารางจ่ายเบี้ยประกันสุขภาพ เเละการต่อ
ประกันสุขภาพตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ ซึ่งทั้งหมดนี้ผู้ที่ซื้อประกันสุขภาพ จำเป็นต้องทำความเข้าใจตั้งเเต่ต้นก่อนเลย เพื่อจะได้
เลือกซื้อประกันสุขภาพที่ใช่สำหรับเรามากที่สุด ได้ประกันสุขภาพที่ใช่ตรงต่อความต้องการของเรามากที่สุด เพราะหากเรา
เกิดไม่เข้าใจกรมธรรม์หรือเข้าใจผิดก็ตามอาจเสียผลประโยชน์ที่ได้รับก็เป็นได้

ปัญหาความไม่เข้าใจกรมธรรม์ประกันสุขภาพก่อนซื้อนั้นยังมีอยู่มากมาย เเละนี่ก็คือ 5 เรื่องที่ผู้ซื้อประกัน
จอปัญหาอยู่บ่อยครั้ง มีดังต่อไปนี้
1.ช่วงระยะเวลารอคอย
เพราะความคุ้มครองของ ประกันสุขภาพ ทุกฉบับเเละทุกกรมธรรม์ล้วนต้องระบุถึงเงื่อนไข '' ช่วงระยะเวลารอคอย '' เอาไว้ข้างใน
กรมธรรม์ประกันทุกฉบับที่เราซื้ออยู่เเล้ว ช่วงระยะเวลารอคอย คือช่วงเวลาที่ประกันสุขภาพจะยังไม่มีผลคุ้มครองทันที ติดช่วงเวลาที่
เราต้องรอให้ผ่านพ้นช่วงนี้ไปก่อนถึงประกันจะมีผลคุ้มครองให้กับเราใช้สิทธิเคลมประกันได้ โดยส่วนใหญ่เเล้วบริษัทประกันจะกำหนด
เงื่อนไขช่วงระยะเวลารอคอยเอาไว้หลายช่วงเวลาเช่น 30 วัน , 60 วัน , 120 วัน , 180 วัน ยิ่งเป็นในโรคร้ายแรงที่ค่ารักษาโรคสูง
ช่วงระยะเวลารอคอยก็ยิ่งต้องรอคอยนานด้วย เพราะเหตุนี้ผู้ซื้อประกันจึงควรเข้าใจเรื่องนี้ก่อนซื้อประกันด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้พลาด
ตอนที่เราจะเคลมประกันสุขภาพได้ถูกต้องตามช่วงเวลานั่นเอง

2.วงเงินคุ้มครองค่าห้องต่อวันของผู้ป่วยในที่ประกันสุขภาพระบุไว้
'' ค่าห้องโรงพยาบาล '' เป็นหนึ่งในค่าใช้จ่ายที่เวลาเราเข้าพักรักษาตัวในโรงพยาบาลจะต้องเสียเงินจ่ายด้วย ไม่ใช่เเค่เฉพาะค่ารักษา
โรคร้ายต่างๆเพียงอย่างเดียว โดยเเต่ละโรงพยาบาลก็มีค่าห้องที่เเตกต่างกันด้วยบางโรงพยาบาลค่าห้องถูก แต่บางโรงพยาบาล
ค่าห้องแพงมาก

** ค่าห้องพักรักษาโรงพยาบาลส่วนใหญ่ถ้าเป็นโรงพยาบาลขนาดกลาง ค่าห้องตกประมาณ 3,000-5,000 บาท ต่อคืน
ซึ่งประกันสุขภาพส่วนใหญ่จะกำหนดคุ้มครองชดเชยค่าห้องไว้ราวๆนั้น
** ส่วนค่าห้องพักรักษาของโรงพยาบาลเอกชนขนาดใหญ่ มีตั้งเเต่ค่าห้องมากกว่า 8,000-10,000 กว่าบาท / คืนเลยก็มี

ซึ่งประกันสุขภาพแต่ละฉบับก็จะมีการระบุถึงความคุ้มครองวงเงินค่าห้องเอาไว้เป็นจำนวนเงินชัดเจน ถ้าเลือกห้องพักรักษาที่ราคาค่าห้อง
ไม่เกินวงเงินก็ดีไป ไม่ต้องจ่ายอะไรเพิ่ม แต่ถ้าหากเราเข้าห้องพักรักษาที่ค่าห้องแพงกว่าวงเงินคุ้มครองค่าห้องที่ประกันสุขภาพระบุไว้
ค่าใช้จ่ายส่วนต่างที่เหลือ ผู้ซื้อประกันต้องจ่ายเงินเพิ่มด้วย ดังนั้นเวลาเลือกโรงพยาบาลแต่ละแห่งเราควรดูเรื่องราคาค่าห้องรักษาเอาไว้เนิ่นๆ
เพื่อจะได้เลือก รพ.ที่ค่าห้องไม่เเพงจนเกินไป

อ่านบทความเพิ่มเติมคลิก >>  กรมธรรม์ประกันสุขภาพ


3.เงื่อนไขการสำรองจ่ายก่อน

เรื่องนี้เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ในกรณีที่เราป่วยหนักในช่วงเวลาที่เพิ่งผ่านพ้นระยะเวลารอคอยของประกันสุขภาพไปไม่นานเช่น ผ่านไป 1 ปี
เเล้วเราเกิดป่วยหนักเป็นโรคร้ายแรงเช่น โรคมะเร็ง , โรคหัวใจ ซึ่งถือเป็นช่วงที่อายุกรมธรรม์ประกันยังน้อยอยู่ ส่งผลให้บริษัทประกัน
มีสิทธิที่จะกำหนดให้เราต้องสำรองจ่ายค่ารักษาเองไปก่อน เเล้วค่อยมาเคลมประกันในภายหลัง เพราะบริษัทจำเป็นต้องตรวจสอบข้อมูลสุขภาพ
ของผู้ทำประกันย้อนหลังก่อนทำการเคลมประกันได้ ปัญหานี้ถือเป็นเรื่องใหญ่ที่เกิดขึ้นต่อผู้ซื้อประกันสุขภาพหลายคนเจอปัญหานี้ก็รู้สึกเเย่มาก
แต่เมื่อพิจารณาข้อเท็จจริงจะพบว่าเงื่อนไขการสำรองจ่ายก่อน มักจะกำหนดในเคสที่ประกันสุขภาพที่ทำนั้นอายุกรมธรรม์ยังน้อยเกินไป หรือ
อายุกรมธรรม์ยังไม่ถึง 2 ปี ซึ่งบริษัทประกันก็จำเป็นต้องเช็คข้อมูลประวัติสุขภาพย้อนหลังของผู้ซื้อประกันก่อนใช้ระยะเวลาไม่เกิน 90 วัน
ถ้าไม่มีปัญหาใดๆบริษัทประกันก็จะอนุมัติการเคลมประกันสุขภาพให้ในที่สุด

** คำแนะนำในเรื่องนี้  ผู้ซื้อประกันสุขภาพควรเข้าใจในเงื่อนไขสำรองจ่ายก่อนซื้อประกันเสมอ โดยเเนะนำว่าช่วงแรกๆที่กรมธรรม์อายุยังน้อยอยู่
อายุประกันยังไม่ถึง 2 ปี อย่าเพิ่งเคลมประกันสุขภาพบ่อยนักป่วยเล็กน้อยก็ไม่ควรเคลมประกันสุขภาพช่วงนี้มาก เพื่อเก็บสิทธิไว้ใช้ประกันสุขภาพ
รอเคลมประกันช่วงที่ป่วยหนักจากโรคร้ายแรงในอนาคตจะดีกว่า

4.ไม่เข้าใจเรื่องโรงพยาบาลคู่สัญญา
เนื่องจากบริษัทประกันแต่ละแห่งจะมีการระบุถึง โรงพยาบาลคู่สัญญา ของบริษัทประกันที่แตกต่างกันไป ในกรณีที่เราไปเข้ารับการรักษา
ในโรงพยาบาลที่ไม่ใช่คู่สัญญา ส่งผลเสียเราต้องจ่ายเงินค่ารักษาเองไปก่อนเเล้วค่อยมาเคลมประกันในภายหลัง แนะนำว่าให้ผู้ซื้อประกัน
ควรเช็คข้อมูลโรงพยาบาลคู่สัญญาก่อนซื้อประกันเลย ดูตรงที่โรงพยาบาลคู่สัญญาที่ระบุแฟลกซ์เคลมได้ จะได้ตัดสินใจซื้อประกันได้อย่าง
หมดห่วงนั่นเอง

5.เลือกการจ่ายเบี้ยประกันสุขภาพไม่เกินกำลังซื้อของตัวเอง

หลายคนพลาดพลั้งต่อปัญหาเบี้ยประกันสุขภาพเเพง เพราะซื้อประกันสุขภาพที่เเพงเกินกำลังซื้อของเราไปมาก วางแผนการเงินได้ไม่ดีพอ
แนะนำให้ซื้อประกันสุขภาพที่ไม่ควรเกิน 15% ของรายได้เราในเเต่ละเดือนเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาจ่ายเบี้ยไม่ไหว ส่วนจะเลือกจ่าย
เบี้ยประกันแบบรายปีหรือจ่ายเบี้ยประกันแบบรายเดือนก็ตาม เราควรคิดให้รอบคอบเเละวางแผนการเงินล่วงหน้าเอาไว้ให้ดีด้วยนะ

ทั้งหมดนี้เป็นคำแนะนำดีๆที่ช่วยให้ผู้ซื้อประกันสุขภาพฉบับแรกสามารถเข้าใจก่อนซื้อประกันเพื่อจะได้ตัดสินใจซื้อประกันให้เหมาะสมกับเรา
ส่งเบี้ยประกันสุขภาพไหวใช้สิทธิเคลมประกันได้อย่างถูกช่วงเวลาตามเงื่อนไขกรมธรรม์นั่นเอง '' ประกันสวัสดีดอทคอม '' เรามีครบทั้ง
ประกันสุขภาพหลากหลายกรมธรรม์ ให้เพื่อนๆได้เลือกชมสามารถเปรียบเทียบประกันสุขภาพแต่ละแห่งได้ด้วย พร้อมรับสิทธิพิเศษเมื่อซื้อ
ประกันสุขภาพผ่านสวัสดีดอทคอม สามารถเข้าไปชมได้ที่หน้าเว็บไซต์ได้เลยครับ

ทำเรื่องประกันสุขภาพให้เป็นเรื่องง่ายๆ คลิก ประกันสวัสดีดอทคอม  ประกันสุขภาพออนไลน์ คุ้มครองครบ จบที่เดียว สวัสดีดอทคอม โทร 02098 599


article_health_compare_insurance_pic02_adea8473f4.jpg


ตอบกระทู้

สำหรับคนที่ขี้เกียจพิมพ์
คุณจำเป็นต้องเข้าสู่ระบบก่อนที่จะตอบกลับ เข้าสู่ระบบ | สมัครสมาชิก

รายละเอียดเครดิต

TOP