มองหาสไตล์การแต่งตัวใหม่ ๆ ที่จะทำให้โดดเด่น และอินเทรนด์ที่สุดในปีคือการเฉลิมฉลองให้กับความหลากหลายและการผสมผสานที่ลงตัวระหว่าง ความอ่อนหวานโรแมนติก และ ความเท่คล่องตัว 2 เทรนด์หลักที่กำลังครองใจสายแฟชั่น พร้อมไอเดียเสื้อผ้าแฟชั่น มิกซ์แอนด์แมตช์ ให้ดูดีในทุกโอกาส
1. เทรนด์ Coquette & Romantic Feminine (หวานละมุน ชวนฝัน)
เทรนด์นี้เป็นการนำกลิ่นอายความโรแมนติกแบบวินเทจกลับมาอีกครั้ง แต่ปรับให้ดูทันสมัยและใส่ได้จริงในชีวิตประจำวัน โดยเน้นไปที่รายละเอียดที่อ่อนโยนและนุ่มนวล
ไอเท็มหลักที่ ต้องมี
ชุดเดรสลูกไม้ / เดรสงานปัก: เลือกเดรสที่เน้นดีเทลงานฝีมือ ลูกไม้ หรืองานปักแบบวินเทจ (Vintage Embroidery) โดยเฉพาะเดรสที่ตัดเย็บจากผ้าโปร่ง หรือผ้าชีฟองสีอ่อน
คอร์เซต (Corset) ที่ใส่ได้ทุกวัน: คอร์เซตไม่ได้จำกัดอยู่แค่ชุดชั้นในอีกต่อไป แต่ถูกนำมาแมตช์กับกางเกงยีนส์เอวสูง หรือกระโปรงยาวพลิ้ว ๆ เพื่อเพิ่มความเซ็กซี่แบบมีระดับ
รองเท้าบัลเล่ต์แฟลต (Ballet Flats) และแมรี่เจน (Mary Jane): รองเท้าส้นแบนที่มีสายรัดข้อเท้าหรือหลังเท้ากลับมาเป็นไอเท็มหลักที่ให้ลุคอ่อนโยนเหมือนตุ๊กตา
สีมาแรง: สีพาสเทลโทนอุ่น (Warm Pastel) เช่น สีชมพูอ่อน (Baby Pink), สีฟ้าอ่อน, สีครีม, สีไอวอรี่ และสีเบจ
2. เทรนด์ Sporty Chic & Streetwear (เท่คล่องตัว สบายแต่มีสไตล์)
เป็นการผสานเสื้อผ้าแนวสปอร์ตเข้ากับแฟชั่นสตรีทและแคชชวลอย่างลงตัว เน้นความสบาย คล่องตัว แต่ยังคงความเท่และมีพลัง เหมาะสำหรับชีวิตในเมืองที่เร่งรีบ
shoppingไอเท็มหลักที่ ต้องมี
กางเกงยีนส์ทรงหลวม (Baggy Jeans): กางเกงยีนส์ขาตรง ทรงหลวม หรือทรงบอยเฟรนด์ที่ให้ความรู้สึกสบายตัว ไม่รัดรูป เป็นกางเกงยีนส์ที่มาแรงที่สุดแห่งปี
ชุด Athleisure (เสื้อผ้ากีฬาที่ใส่ในชีวิตประจำวัน): เช่น เสื้อครอป (Crop Top) ที่แมตช์กับกางเกงวอร์ม หรือ สปอร์ตบรา ที่ใส่คู่กับแจ็คเก็ตบอมเบอร์ (Bomber Jacket)
รองเท้าสนีกเกอร์ (Sneakers) และรองเท้าผ้าใบ: เน้นทรงที่ดูย้อนยุค (Retro) หรือดีไซน์ล้ำสมัย (Futuristic) ที่มีสีสันสดใส หรือสีขาวคลีน
สีมาแรง: สีดำ, สีเทา, สีขาว และการใช้สี Bold Colors (สีจัดจ้าน) เช่น สีแดงสด, สีน้ำเงินไฟฟ้า ในการตัดกัน (Dopamine Dressing)
|