ดู: 239|ตอบกลับ: 4

A: โบกมือลาปัญหากลิ่นตัว

[คัดลอกลิงก์]
Dew
เช็คอินสะสม: 4492 วัน
เช็คอินต่อเนื่อง: 4 วัน

ความคืบหน้าการอัพเกรด: 46%

สมาชิก kulasang.net เท่านั้นถึงจะสามารถเข้าเนื้อหาได้อย่างสมบูรณ์

คุณจำเป็นต้อง เข้าสู่ระบบ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? สมัครสมาชิก

x
กลิ่นตัว.jpg
ถ้าสาวๆ มีกลิ่นตัวคงดูไม่ดีแน่..มาดูหลากวิธีหยุดกลิ่นไม่พึงประสงค์
      ปัญหา "กลิ่นตัว" เกิดจากการที่เรามีเหงื่อออกมาก โดยร่างกายเราจะมี 2 ส่วนที่เหงื่อออกมาก นั่นคือ บริเวณฝ่ามือ-ฝ่าเท้า ซึ่งลักษณะเหงื่อเป็นน้ำใสๆ มีกลิ่นเล็กน้อย และบริเวณข้อพับ รักแร้ หรือขาหนีบ ซึ่งเป็นเหงื่อที่มีกลิ่นเหม็นกว่า มีความหนืดกว่า ซึ่งกลิ่นเหม็นนั้นเป็นเพราะความอับชื้นและมีการหมักหมมร่วมกับแบคทีเรีย
เหงื่อที่ออกมากผิดปกติจนเกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์จำแนกได้เป็น 3 ประเภท

      1. เกิดจากพันธุกรรม
      2. เกิดจากโรคบางอย่าง เช่น ไทรอยด์ วัณโรค คอหอยพอก โรคหัวใจ โรคทางสมอง หรือแม้กระทั่งอยู่ในวัยใกล้หมดประจำเดือน และ

      3. ไม่สามารถหาสาเหตุได้ นอกจากนี้สิ่งแวดล้อมอย่างสภาพอากาศร้อนก็เป็นตัวเร่งให้เหงื่อออกมาก โดยจะไปกระตุ้นการทำงานของระบบประสาทที่ควบคุมการทำงานของต่อมเหงื่อ

หลากวิธีหยุดกลิ่นไม่พึงประสงค์   
     1. เริ่มจากการดูแลรักษาความสะอาดและอาบน้ำ ซึ่งอาจใช้สบู่ฟอกตามบริเวณที่มีการหมักหมมของเหงื่อเพื่อลดแบคทีเรียที่ก่อ ให้เกิดกลิ่นได้
     2. การใช้น้ำยาดับกลิ่นแบบดีโอดูแรนท์ (deodorant) ซึ่งช่วยลดกลิ่นแต่ไม่ช่วยลดเหงื่อ ซึ่งการใช้ยาทาประเภทนี้ต้องระวังเพราะในบางคนอาจเกิดอาการแพ้และทำให้เกิด ผื่นดำได้ อย่างไรก็ดีไม่แนะนำการใช้โรลออนที่เราส่วนใหญ่คุ้นเคย เนื่องจากอาจเกิดอาการแพ้แล้วทำให้เกิดอาการดำได้ หากปัญหากลิ่นตัวที่มีสาเหตุจากเหงื่อออกมากก็ควรหาวิธีรักษาเพื่อระงับ เหงื่อดีกว่า
     3. การใช้ยาระงับเหงื่อหรือแอนตีเพอร์สไปแรนท์ (antiperspirant) ซึ่งจะทำปฏิกิริยาให้เกิดการอุดตันในท่อเหงื่อและลดการไหลของเหงื่อได้ แต่ไม่ควรใช้ที่มีส่วนผสมของน้ำหอมเพราะจะทำให้เกิดการอักเสบและทำให้รักแร้ ดำจากผื่นได้ โดยประเภทที่มีขายตามท้องตลาดนั้นมักผสมน้ำหอม ทางที่ดีจึงควรไปพบแพทย์เพื่อสั่งยาที่มีส่วนผสมของอลูมิเนียมคลอไรด์ 20% สำหรับทาระงับเหงื่อได้
     4. การทำไอออนโตที่ฝ่ามือและฝ่าเท้า โดยแช่น้ำแล้วใช้กระแสไฟฟ้าผลักเพื่อให้เหงื่อออกน้อยลง
     5. ฉีดโบทอกซ์ซึ่งได้รับการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาแล้วว่า สามารถรักษาอาการเหงื่อออกมากได้ โดยวิธีนี้จะไปยับยั้งสารที่หลั่งออกมาควบคุมระบบประสาทที่ทำให้เกิดการ หลั่งของเหงื่อ มีผลข้างเคียงน้อย ลดเหงื่อได้ 83% และหลังรับการรักษาแล้วจะแก้ปัญหาเหงื่อออกมากได้นาน 6-8 เดือน ซึ่งวิธีนี้เป็นวิธีที่สะดวกต่อผู้ที่มีเหงื่อออกมากผิดปกติ
     6. ผ่าตัดเอาต่อมเหงื่อหรือเส้นประสาทที่ควบคุมต่อมเหงื่อ ซึ่งได้ผลดีแต่อาจทำให้เกิดแผลได้
     7. หลีกเลี่ยงอาหารที่มีกลิ่น เช่น กระเทียม ทุเรียน ชะอม สะตอ เป็นต้น

      หากไม่มั่นใจว่า กลิ่นตัวของเรานั้นเป็นปัญหาสำหรับผู้อื่นหรือไม่ ลองสอบถามคนรอบข้างที่ไว้ใจได้ หรือหากเป็นผู้ที่เหงื่อออกมาก และกลิ่นตัวแรง จนยาระงับกลิ่นใดๆ ก็ไม่สามารถหยุดปัญหากลิ่นไม่พึงประสงค์ได้ ลองปรึกษาคุณหมอดูเพื่อหาสาเหตุให้พบและเข้าไปแก้ไขที่สาเหตุโดยตรง

ขอขอบคุณ ที่นี่, ศูนย์ผิวหนัง โรงพยาบาลเวชธานี
เช็คอินสะสม: 1685 วัน
เช็คอินต่อเนื่อง: 1 วัน

ความคืบหน้าการอัพเกรด: 22%

โพสต์ 2013-7-31 21:47:14 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุณมากครับ
เช็คอินสะสม: 4201 วัน
เช็คอินต่อเนื่อง: 96 วัน

ความคืบหน้าการอัพเกรด: 57%

โพสต์ 2013-8-1 09:24:22 | ดูโพสต์ทั้งหมด
thank you 2013
เช็คอินสะสม: 99 วัน
เช็คอินต่อเนื่อง: 1 วัน

ความคืบหน้าการอัพเกรด: 78%

โพสต์ 2013-8-1 19:55:59 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุณครับ
เช็คอินสะสม: 470 วัน
เช็คอินต่อเนื่อง: 1 วัน

ความคืบหน้าการอัพเกรด: 51%

โพสต์ 2013-8-3 11:43:28 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุณครับ

ตอบกระทู้

สำหรับคนที่ขี้เกียจพิมพ์
คุณจำเป็นต้องเข้าสู่ระบบก่อนที่จะตอบกลับ เข้าสู่ระบบ | สมัครสมาชิก

รายละเอียดเครดิต

TOP